ทำไม Empathy ทำให้คุณอยากไปทำงาน?

Home » Business » ทำไม Empathy ทำให้คุณอยากไปทำงาน?

บางคนเบื่องานเพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่บางคนก็เบื่องานเพราะไม่ได้ทำงานร่วมกับคนที่ใช่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมเวิร์กนั้นจำเป็นกับงานส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะในทีมเดียวกันเองหรือการประสานงานกันข้ามแผนกก็ตาม ถ้าเราโชคดีได้ร่วมงานกับคน ‘ดีๆ’ ที่ไม่เพียงแค่ทำงานเก่ง แต่ยังคุยง่าย งานนั้นก็จะผ่านไปอย่างราบรื่น

แต่เราเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่โชคดี เพราะสาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนลาออกจากงานนั้นไม่ได้มาจากตัวงานอย่างเดียว บางครั้งก็มาจากหัวหน้าที่เจ้ากี้เจ้าการ สั่งงานตอนบ่ายต้องได้ตอนเย็น โดยไม่ถามเลยว่าเรามีงานในมือล้นแค่ไหน หรือบางครั้งก็มาจากเพื่อนร่วมงานที่ชื่นชอบการแข่งขันเสียยิ่งกว่าใคร เห็นใครดีกว่าไม่ได้ ต้องมีแซะ มีเหน็บแนมกันบ้าง

ที่คนเหล่านี้เป็นแบบนี้ ก็เพราะพวกเขาขาดสิ่งที่เรียกว่า ‘Empathy’

Empathy คืออะไร?

คนที่มี Empathy คือคนที่ ‘เข้าใจ’ ว่าอีกฝ่ายรู้สึกหรือต้องการอะไร การที่เราเห็นใจคนอื่นไม่ได้แปลว่าเราต้องเห็นด้วยกับเขาไปเสียทุกครั้ง แต่มันหมายความว่าเราพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหัวหน้าคุณมี Empathy เวลาเขาเร่งงาน อย่างน้อยเขาก็จะถามก่อนว่าตอนนี้ว่างไหม มาช่วยตรงนี้ก่อนได้ไหม พร้อมอธิบายเหตุผลให้คุณเข้าใจว่างานนี้สำคัญอย่างไรทำไมต้องรีบทำ

กลับกัน หากหัวหน้าคุณไม่มี Empathy สิ่งที่เขาจะทำก็คือ ‘สั่ง’ ให้ทำโดยไม่ถามไถ่อะไรสักคำ หรือถ้าถามก็ถามแค่พอเป็นพิธี แต่เขาก็จะไม่สนใจคำตอบคุณอยู่ดี เพราะเขาคิดแค่ว่างานที่เขาสั่งสำคัญกว่าความรู้สึกของคุณ

ทำอย่างไรเราถึงจะมี Empathy?

เมื่อเจอกับตัวเองแล้ว เราก็คงไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่นไม่มีความสุขกับการทำงาน มาเรียนรู้กันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เรากลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย

ฟังแล้วคิดตาม

ทักษะที่คนมักมองข้ามคือการฟัง เพราะหลายคนคิดว่าเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่การฟังในที่นี้ไม่ใช่แค่การ ‘ได้ยิน’ ผ่านหูไปเฉยๆ แต่คือการคิดตามเนื้อหาที่เราได้ฟังด้วยว่าเขารู้สึกโกรธ เสียใจ หรือผิดหวังนั้นเป็นเพราะอะไร เราจะได้เข้าใจเขามากขึ้น

ไม่ตัดสินความรู้สึกคนอื่น

ขณะที่เรารับฟังอีกฝ่ายระบาย ก็ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าตัดสินคนอื่นด้วยมุมมองของตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับอีกฝ่ายทั้งหมดก็ได้ เพราะคนเราแตกต่างกัน เจออะไรมาไม่เหมือนกัน เรื่องเล็กสำหรับเราอาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา แต่เรื่องใหญ่สำหรับเรา ก็อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับคนอื่นได้เช่นกัน เพราะงั้น คงไม่มีใครชอบเวลาโดนพูดใส่ว่า “เรื่องแค่นี้เอง” หรอก จริงไหม?

แสดงออกว่าเราใส่ใจ

แค่รับรู้จากข้างในไม่พอ บางครั้งเราก็ต้องแสดงออกด้วย การแสดงความรู้สึกไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเห็นใครกำลังเครียดก็อาจจะลองซื้อขนมมาฝาก เห็นใครดูเหนื่อยล้าก็ลองถามไปว่า “วันนี้ดูเหนื่อยๆ นะ เป็นอะไรหรือเปล่า?” เท่านี้คนฟังก็รับรู้ความใส่ใจของเราแล้ว

ไม่มีใครอยากร่วมงานกับคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง มาร่วมสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนรู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพื่อสังคมการทำงานที่มีความสุขกันเถอะ!

ฝึกฝนให้ตัวเองมี Empathy ไปกับ คุณมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ CEO แห่ง Sea ประเทศไทย ในคอร์ส Scale People, Scale Company “สร้างบริษัทให้โตด้วยพลังคนรุ่นใหม่” ได้ที่ CARIBER

อ้างอิง

https://bit.ly/308FJO7

https://bit.ly/2MIQ5kM

https://bit.ly/2NRTDSB

https://bit.ly/3e69Q0S

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน