Work Life Balance อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป

Home » Development » Work Life Balance อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแนวคิด “Work Life Balance” เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมากในสังคม เพราะหลายคนรู้สึก Burnout จากการทำงานหนักจนเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเวลาส่วนตัวหายไปไหนหมด แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงแนวคิด “Work Life Harmony” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับ “Work Life Balance” ออกมาให้เห็นกันบ่อยๆ 

สรุปแล้วสองแนวคิดนี้คืออะไรและมีความแตกต่างกันอย่างไร? Cariber จะเล่าให้ฟัง

Work Life Balance คืออะไร?

“Work Life Balance” คือแนวคิดที่เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน เพราะหลายคนในปัจจุบันหรือคนทำงานทั่วไปต่างประสบปัญหาที่รู้สึกว่างานเข้ามาปะปนกับการใช้ชีวิตมากเกินไปและไม่สามารถแยกเวลาการทำงานและการใช้ชีวิตออกจากกันได้  ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้ชีวิตของเราเสียสมดุลจนนำไปสู่ผลเสียต่อสุขภาพ เช่น การทำงานที่บ้านตลอดเวลาจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน เพราะเราไม่มีเส้นแบ่งระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงานนั้นเอง

แนวคิดนี้จึงเป็นแนวคิดที่จะทำให้ชีวิตของเรามีเส้นแบ่งระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตของเรามีความสมดุลมากขึ้นเพราะเราสามารถแยกได้ว่าสิ่งไหนคือเวลาทำงานและเวลาของการใช้ชีวิต

Work Life Harmony คืออะไร?

“Work Life Harmony” คือแนวคิดที่แตกต่างจาก “Work Life Balance” อย่างสิ้นเชิงเพราะแนวคิดนี้เชื่อว่าการใช้ชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพราะหากเรามีชีวิตที่ดีและมีความสุขก็จะส่งผลกับการทำงานของเราให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีพลังในทุกวัน และเมื่อเราทำงานอย่างมีความสุขเราก็จะมีความสุขในการใช้ชีวิตเช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้นแนวคิดนี้จึงเป็นแนวคิดที่ไม่ได้แบ่งแยกการทำงานออกจากการใช้ชีวิต แต่เป็นแนวคิดที่สนับสนุนให้เราผสมผสานทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะเชื่อว่าการทำแบบนี้จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นในทุกๆ ด้าน

ความแตกต่างระหว่าง “Work Life Balance” และ “Work Life Harmony” 

แนวคิดทั้งสองต่างพูดถึงเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างสองแนวคิดนี้คือ การแบ่งแยกการทำงานออกจากการใช้ชีวิต และ การผสมผสานการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

ตัวอย่างของ “Work Life Balance” : หลังจากเลิกงานเราก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอีก เพื่อให้เราได้ใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นในชีวิตแทน 

ตัวอย่างของ “Work Life Harmony” : หลังจากเลิกงานก็สามารถใช้ชีวิตไปพร้อมกับการทำงานได้ เช่น เราอาจจะเลิกงานเร็วแต่ก็พร้อมที่จะประชุมหรือทำงานอยู่ตลอดเวลา

แต่ละแนวคิดก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเหมาะสมของแต่ละคนที่จะนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิต แต่ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีผู้นำหลายคนต่างออกมาพูดถึงและสนับสนุนแนวคิด  “Work Life Harmony” มากกว่า เพราะเห็นว่าเป็นแนวคิดที่มีความยืดหยุ่นและเชื่อว่าการทำงานและการใช้ชีวิตสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เพราะจะทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตและทำให้เราสามารถทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

เราไม่จำเป็นต้องแยกการทำงานกับการใช้ชีวิตออกจากกันเพื่อให้เรามีความสุข แต่เราสามารถมีความสุขทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กันได้

เห็นคุณค่าในการทำงานและการใช้ชีวิต เพื่อเติบโตและก้าวหน้าอย่างมีความสุขไปกับ

คุณบุณย์ญานุช บุญบํารุงทรัพย์ ในคอร์ส The Path to Employee Success and Happiness “ก้าวหน้าอย่างมีความสุข” ที่คุณบุณย์ญานุช จะมาแชร์ทุกประสบการณ์จากการทำงานตั้งแต่ชีวิตวันแรกของพนักงานที่ไม่มี Passion  สู่การค้นหาและรู้จักตัวเองให้มากขึ้น เปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดให้เห็นคุณค่าในงานที่ทำ และอีกหลายเคล็ดลับการทำงานให้เติบโต รวมถึงการรับมือความล้มเหลวในการทำงานที่จะช่วยให้ทุกคนก้าวข้ามไปด้วยกัน

อ้างอิง https://bit.ly/3mjrsJF https://bit.ly/3awBS5U

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน