ต้องเป็นได้ทั้ง ‘ลูกน้องที่เก่ง’ และ ‘ผู้นำที่ดี’
Employee Survival Guide อยู่ให้เป็น เอาตัวให้รอด จาก ‘ศูนย์’ ถึง ‘CEO’
รู้จักคุณฐากร ปิยะพันธ์
คุณฐากร ปิยะพันธ์ CEO (กลุ่มอาคเนย์) อดีตประธานกรรมการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตที่ใหญ่สุดในประเทศไทย โดยเขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกค้ากว่า 5 ล้านราย รวมถึงพนักกงานบริษัทอีกกว่า 6,000 ชีวิต
ที่น่าสนใจคือคุณฐากรใช้เวลาเพียง 15 ปี ไต่เต้าจากการเป็นพนักงานตัวเล็กๆ สู่จุดสูงสุดขององค์กร หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า CEO แน่นอนว่าแต่ละขั้นย่อมมีความท้าทายที่ต่างกัน และเพื่อความก้าวหน้า สิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ก็คือ ‘การเป็นลูกน้องที่เก่ง’ และ ‘การเป็นผู้นำที่ดี’
ซึ่งที่ผ่านมาคุณฐากรยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนเรียนเก่ง แถมยังผ่านการซ้ำชั้นมาหลายครั้ง รวมถึงเกือบโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยมาแล้ว แต่คุณฐากรโตมาด้วยความเชื่อว่าการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นนอกจากการเรียนในห้องแล้ว เขาก็มักจะหาประสบการณ์จากนอกห้องเรียนด้วย
พีระมิดขององค์กร
โดยปกติแล้วองค์กรจะถูกแบ่งเป็นพีระมิด 3 ขั้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่คุณฐากรล้วนผ่านมาแล้วทั้งหมด และมีความเข้าใจความสัมพันธ์ของพีระมิดองค์กรได้เป็นอย่างดี
เริ่มจาก ‘พีระมิดขั้นรากฐาน’ หรือก้าวแรกของการเริ่มต้นทำงาน โดยคุณฐากรแนะนำว่า แทนที่เราจะมุ่งมั่นเรียนรู้เฉพาะหน้าที่ของตนเอง เราควรจะสนใจการทำงานของเพื่อนแผนกอื่นด้วย รู้ว่าการทำงานของเราและเขาเชื่อมต่อกันอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่จะทำให้เราขยับขึ้นสู่ชั้นที่สูงขึ้น
พอทำงานมาสักระยะ เราก็จะก้าวสู่ ‘พีระมิดชั้นกลาง’ ซึ่งก็จะมีงานถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุด เพราะหน้าที่ของเราคือต้องเป็นผู้นำที่ดีและลูกน้องที่เก่งไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นต้องอย่าลืมการจัดลำดับทั้ง ‘ความด่วน’ และ ‘ความสำคัญ’ ของงานที่ได้รับมาแต่ละชิ้นด้วย
หลังจากนั้นโอกาสที่เราจะก้าวขึ้นสู่ ‘พีระมิดชั้นบนสุด’ ก็มาถึง ในจุดนี้ความท้าทายของเราจะเปลี่ยนไป โดยเราอาจจะต้องไปบริหารคนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงาน คนที่อยู่มานานกว่า รวมถึงคนที่เป็นหัวหน้าของเรามาก่อน สิ่งที่เราควรจะทำจึงเป็นการสร้างความเชื่อใจและมั่นใจว่า เรามีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นผู้นำขององค์กร
ปัญหาทำให้การทำงานดีขึ้น
แน่นอนว่าการก้าวข้ามแต่ละขึ้นขึ้นมา เราต้องเจอทั้งปัญหาและความท้าทายอยู่เสมอ สำหรับเรื่องนี้คุณฐากรมองว่าเราต้องใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ ซึ่งหลายๆ ครั้ง วิธีที่เราใช้แก้ปัญหา ก็อาจกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ ถือเป็นโอกาสในวิกฤติก็ว่าได้
เพราะสำหรับคนส่วนใหญ่ ถ้าทุกอย่างยังดำเนินไปแบบปกติ เราก็คงไม่คิดที่จะปรับอะไร และถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผลที่ตามมาเราก็คงได้เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว ภาพบริษัทใหญ่ๆ ของโลกถูกแทนที่ด้วยบริษัทใหม่ๆ ซึ่งถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา สิ่งแรกสุดที่ต้องปรับเลยก็คือ การมีทัศนคติเชิงบวก
และเมื่อมีทัศนคติที่ดี บวกกับการกระทำ เราย่อมสามารถก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม
เจาะลึกวิธีเติบโตอย่างก้าวกระโดดในที่ทำงานได้ที่ https://www.cariber.co/thakorn-piyapan ไปพร้อมกับคุณฐากร ปิยะพันธ์ ผู้เข้าใจความสัมพันธ์ของพีระมิดองค์กรได้เป็นอย่างดีจากประสบการณ์มากกว่า 20 ปีที่ไต่เต้าจากพนักงานชั้นรากฐานสู่ยอดพีระมิดในคอร์ส Employee Survival Guide “อยู่ให้เป็น เอาตัวให้รอด จากศูนย์ถึง CEO”
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเ…
