เทียบกลยุทธ์ที่แตกต่างระหว่าง Android และ iOS

Android และ iOS คือแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังสมาร์ทโฟนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา iOS ของ Apple เข้าสู่ตลาดโลกในปี 2007 ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Android ของ Google มาในปี 2008 ในปัจจุบัน 99% ของตลาดระบบปฏิบัติการทั่วโลกถูกครอบครองโดย Android และ iOS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แล้วอะไรคือกลยุทธ์ที่สองผู้เล่นยักษ์ใหญ่เหล่านี้ใช้จนสามารถครองตลาดได้?

iOS ของ Apple

iOS ของ Apple มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนั่นคือลูกค้าที่มีรายได้และกำลังซื้อสูง ชอบความสะดวก และเน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งาน Apple จึงเลือกใช้เงินลงทุนไปกับการออกแบบ UX (User Experience)/UI (User Interface) การสร้างระบบป้องกันที่แน่นหนา รวมถึงการสร้าง Ecosystem ของระบบ iOS ทำให้อุปกรณ์ในเครือ Apple ใช้ร่วมกันได้ทั้งหมดอย่างไร้รอยต่อ 

Android ของ Google

กลุ่มเป้าหมายของ Android จะต่างออกไปเนื่องจากจะโฟกัสที่ตลาด Mass และเน้นการกลับมาใช้ซ้ำเป็นหลัก จุดแข็งของระบบ Android จึงอยู่ที่ความเข้าถึงง่ายทั้งในแง่ของราคาและการพัฒนาระบบ ในขณะที่ Apple เป็นผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์รายเดียวของ iOS แต่เมื่อพูดถึง Android จะพบว่ามีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ทั่วโลก เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สของ Android เพื่อสร้างสมาร์ทโฟนหลากหลายประเภท

นี่คือสิ่งที่ทำให้ประชากรส่วนใหญ่สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ได้ตามความต้องการและงบประมาณโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ด้วยระบบปฏิบัติการ Android ทำให้สามารถตั้งราคาสมาร์ทโฟนราคาประหยัดได้ในราคาไม่ถึง 3,000 บาท และแม้แต่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมก็มีจำหน่ายในราคาที่สูงกว่านั้นไม่มาก

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สองค่ายนี้มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป

การปรับแต่ง

ถ้าใครใช้ Android คงจะทราบกันดีว่าระบบปฏิการนี้มีความยืดหยุ่นสูงมาก ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม widget หรือปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์หน้าจอได้ดด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านการเจลเบรก ในขณะที่ iOS จะปรับแต่งได้ยากกว่าและสามารถเจลเบรกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ระบบสั่งการด้วยเสียง

Google Assistant คือระบบสั่งการด้วยเสี่ยงของ Google ที่นอกจากจะพูดคุยโต้ตอบกับเราได้แล้วยังช่วยเหลืองานทั้งงานง่ายๆ และงานยากๆ ได้ด้วย แถมมันยังวิวัฒนาการตัวมันเองได้อีกต่างหาก

ส่วน Siri ของ Apple นั้นในช่วงแรกจะทำได้แค่รับคำสั่งเสียงที่ไม่มีความซับซ้อน แต่หลังจาก iOS 12 ก็สามารถรับคำสั่งและทำได้หลายอย่างพร้อมกัน

การพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรม

เมื่อพูดถึงการแนะนำฟีเจอร์ใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ Android มักจะเป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android นั้นมีอยู่ทั่วโลกทำให้เกิดการพัฒนาได้ง่ายกว่า Apple ที่มีอยู่เจ้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ 5G ได้ สมาร์ทโฟนกันน้ำ หน้าจอพับได้ หรือกล้องหลายเลนส์ก็ล้วนมาจาก Android  

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

เนื่องจาก Android อัพเดทซอฟต์แวร์บ่อยกว่าและเป็นระบบที่เปิดมากกว่าจึงอ่อนไหวต่อการโดนมัลแวร์โจมตีมากกว่าด้วย นอกจากนี้โมเดลธุรกิจของ Google ยังมีรากฐานจากการเก็บข้อมูลทำให้มีโอกาสที่ข้อมูลจะหลุดรั่วมากกว่า ในขณะที่ Apple จะมีความปลอดภัยและมีระบบดูแลรักษาความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด เห็นได้จากการอัพเดทแพทช์ความปลอดภัยบ่อยๆ และไม่สามารถลงแอปพลิเคชั่นที่อยู่นอกเหนือจากใน App Store ได้

กลยุทธ์ที่ดีต้องเหมาะสมกับองค์กรและตอบโจทย์ช่องว่างในตลาด แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจของเราต้องใช้กลยุทธ์แบบไหน? หาคำตอบได้ในคอร์ส “Strategy to Win – วางกลยุทธ์สู่ชัยชนะ” โดย คุณพชร อารยะการกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bluebik Group ได้ที่ Cariber

อ้างอิง https://bit.ly/3Gntscs https://bit.ly/3tkbP9w

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights