ปัจจัยที่แบรนด์และธุรกิจต่างให้ความสำคัญคือผลกำไรและลูกค้า ดังนั้นเราจะมาแนะนำกลยุทธ์สำหรับการรักษาลูกค้าที่สร้างทั้งความพึงพอใจและผลกำไรในทางอ้อม เพื่อไม่ให้พวกเขาเปลี่ยนใจและกลับมาซื้อเพิ่มอีกเรื่อย ๆ
การรักษาลูกค้าคืออะไร?
การรักษาลูกค้า (Customer Retention) คือ แนวคิดของการเปลี่ยนลูกค้าที่มีอยู่ให้เป็นลูกค้าประจำที่ยังคงซื้อผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทของเราต่อไปโดยไม่เปลี่ยนใจหันไปหาคู่แข่ง
โดยกลยุทธ์การรักษาลูกค้ามักเน้นที่การสร้างความภักดีต่อแบรนด์ การเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้นักช็อปเลือกแบรนด์ของเราไว้อันดับหนึ่งเหนือทางเลือกอื่น ๆ ดังนั้นการรักษาลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นวิธีที่ดีอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มผลกำไรของบริษัท
ประโยชน์ของการรักษาลูกค้า
1. ถูกพูดถึง – ลูกค้าประจำที่ซื้อสินค้าจากบริษัทของเราอย่างสม่ำเสมอนั้น มักจะรีวิวและโพสต์ความคิดเห็นในเชิงบวกให้กับคนอื่น ๆ ทางออนไลน์และส่งต่อข้อมูลให้แก่เพื่อน ครอบครัว และโซเชียลมีเดีย โดยที่เราในฐานะแบรนด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการบอกต่อแบบปากต่อปากเลย
2. ลดต้นทุน – เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคนทำธุรกิจว่าการหาลูกค้าใหม่มักมีราคาแพงกว่าการรักษาลูกค้าปัจจุบัน ดังนั้นการรักษาลูกค้าที่ดีขึ้น จะทำให้จำนวนเงินที่ต้องใช้ในการโฆษณาและการตลาดลดลง
3. เพิ่มรายได้ – การรักษาลูกค้ามีความสัมพันธ์กับมูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า และเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงจำนวนเงินทั้งหมดที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้าตลอดความสัมพันธ์กับบริษัท เมื่อเราเพิ่มการรักษาลูกค้าให้ดีขึ้น มูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทด้วย
5 กลยุทธ์การรักษาลูกค้า
แน่นอนว่ามีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มการรักษาลูกค้าได้ แต่ 5 วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณ มีโอกาสที่ดีในการพิชิตผลลัพธ์ของอัตราการรักษาลูกค้าที่สูงขึ้น
1. เข้าใจลูกค้า
การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุด โดยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่หลายคนรู้จัก คือ ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่จะช่วยให้เราสร้างโปรไฟล์และฐานข้อมูลลูกค้าไว้เพื่อประเมินการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงตัวชี้วัดด้านประสบการณ์ของลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจเส้นทางในการเข้าถึงสินค้าของผู้ซื้ออย่างละเอียดรอบด้าน
2. สร้างแคมเปญการตลาดผ่านอีเมล
อีเมลเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับนักการตลาดและแบรนด์ เพราะเมื่อลูกค้าทำการซื้อครั้งแรกและเลือกรับข้อมูลผ่านอีเมลส่งเสริมการขาย ก็จะเป็นการเปิดประตูสำหรับการสื่อสารผ่านการตลาดของบริษัทถึงตัวลูกค้าได้โดยตรง โดยการตลาดผ่านอีเมลเหมาะกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือนำเสนอกิจกรรมที่ใกล้จะเกิดขึ้น และเป็นช่องทางการเสนอโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการซื้อและมีส่วนร่วมของลูกค้า และกลับมาซื้ออีกครั้ง
3. สร้างแคมเปญให้เกิดความภักดีของลูกค้า
การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าโดยใช้แคมเปญหรือโปรแกรมเพื่อสร้างความภักดีของลูกค้าเป็นวิธีที่ดีอย่างมาก เพราะสามารถช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า นอกจากนี้แคมเปญแนะนำสินค้าและให้รางวัลสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น และทำให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและยังเทใจให้กับแบรนด์ของเราต่อไป
4. ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้า
หมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ไม่ยาก โดยที่เราในฐานะแบรนด์ก็ควรแสดงคำแนะนำในการติดต่อที่ชัดเจนและง่ายต่อการค้นหาบนเว็บไซต์ และพยายามเข้าถึงผู้ใช้บนโซเชียลมีเดียเมื่อลูกค้าโพสต์คำถามและความคิดเห็น รวมถึงตอบกลับอย่างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาของลูกค้าให้ได้ในเวลาที่เหมาะสม
5. รับคำติชมจากลูกค้า
ลูกค้าจะรู้สึกว่ามีคุณค่าเมื่อแบรนด์ที่ซื้อ ให้ความสำคัญ เปิดใจรับฟังและต้องการได้ยินความคิดเห็นของพวกเขา เพราะการสื่อสารโต้ตอบระหว่างกันได้เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อระหว่างแบรนด์ธุรกิจและลูกค้า
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจและการรักษาลูกค้าอย่างมืออาชีพ ด้วยบทเรียนธุรกิจจากที่สุดของประเทศ ในคอร์ส “Strategy to Win วางกลยุทธ์สู่ชัยชนะ” คุณพชร อารยะการกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง Bluebik Group บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านกลยุทธ์ธุรกิจ และเชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลระดับแนวหน้าของไทย ที่จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่ความสำคัญของกลยุทธ์ต่อธุรกิจ นิยามของกลยุทธ์ที่ดี เครื่องมือสำหรับนักกลยุทธ์ และทำความเข้าใจทุกขั้นตอนการทำ Strategy ตั้งแต่ตั้งเป้าหมายจนถึงภาพสุดท้ายในการแข่งขันของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
อ้างอิง https://bit.ly/3IKkU12
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…