บางครั้งเราก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าทุกคนในที่ทำงานนิสัยคล้ายเราก็คงจะดี
แต่ชีวิตเต็มไปด้วยผู้คนหลายประเภท และถ้าคิดดูดีๆ มันคงน่าเบื่อถ้าเราทุกคนเป็นร่างโคลน ดังนั้น การสื่อสารให้เป็นเพื่อให้คนต่างนิสัยต่างพื้นเพทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ
องค์ประกอบของการสื่อสารที่ดี
• มีจุดมุ่งหมายที่ความชัดเจน ไม่ว่าจะส่งข้อความผ่านทางแชท อีเมล หรือการพูดคุยกันต่อหน้าก็ควรตั้งเป้าหมายว่าต้องการสื่อสารอะไรออกไปให้ชัดเจน
• พยายามแก้ไขความขัดแย้ง ไม่ใช่สร้างมันขึ้นมา เหตุผลที่คุณสื่อสารคือเพื่อแก้ปัญหาหรือส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ หากในที่ทำงานมีการสื่อสารที่ดีก็จะทำให้ทุกคนกล้าพูดถึงปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่และพร้อมแลกเปลี่ยนฟีดแบคกันเพื่อให้บริษัทอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิม
• ต้องเป็นการสื่อสารสองทาง ทุกการสื่อสารที่เกิดขึ้นในที่ทำงานควรจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล แม้ว่าจะมีฝ่ายสื่อสารด้วยภาษากายอย่างเดียว เช่น การพยักหน้ารับรู้ ก็ยังนับเป็นการสื่อสารสองทาง
แล้วเราจะสื่อสารกับคนที่นิสัยต่างจากเราอย่างไรดี?
รู้ว่าความแตกต่างคืออะไรและหลีกเลี่ยงการแปะป้ายอีกฝ่ายในเชิงลบ
เมื่อเราสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนมีวิธีการสื่อสารหรือพฤติกรรมที่แตกต่างกับเรา เป็นเรื่องง่ายที่เราจะหงุดหงิดและแปะป้ายว่าคนเหล่านี้ “เรื่องเยอะ” หรือ “น่ารำคาญ” แต่แทนที่จะทำแบบนั้นเราควรพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมเขาจึงแตกต่างจากเรา บางคนเก็บตัวมากกว่า มักจะอยู่เงียบๆ และชอบที่จะคิดทบทวนสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นคนชอบเข้าสังคม ก็มีแนวโน้มที่จะชอบพูดคุยและอยากมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น บางคนเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ บางคนชอบที่จะได้รับคำแนะนำ แล้วปรับการสื่อสารให้เข้ากับแต่ละคน
มองผู้คนอย่างเป็นกลาง ไม่ใช่ส่วนตัว
แทนที่จะคิดในแง่ที่ว่า “ฉันชอบ A แบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบเวลาที่ A ทำแบบนี้หรือพูดแบบนั้น” ให้พยายามลดความรู้สึกของคุณและยอมรับคนอื่นในแบบที่พวกเขาเป็น การตัดสินผู้คนในแง่ของความชอบส่วนตัวของเราอาจนำไปสู่ความโกรธและความคับข้องใจเมื่อพวกเขาทำในลักษณะที่เราไม่ชอบ การมองผู้คนอย่างเป็นกลางว่า “A ก็คือ A และฉันไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้น” สามารถช่วยให้ปล่อยวางและยอมรับคนอื่นในแบบที่พวกเขาเป็นได้ง่ายขึ้น
โอบรับความแตกต่างด้วยการถามคำถาม
บางครั้งเราหลีกเลี่ยงคนหรือวิธีคิดที่แตกต่างจากตัวเรา ลองใช้วิธีตรงกันข้ามด้วยการเข้าไปถามคำถามว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงมีมุมมองหรือวิธีการทำงานที่ต่างออกไป เพราะการได้ร่วมงานกับคนหลายๆ แบบจะทำให้เราได้มุมมองและวิธีการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา
มองหาเป้าหมายร่วมกัน
การมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายร่วมกันสามารถช่วยให้ผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อความแตกต่างดูมากเกินไป คนแต่ละคนอาจมีมุมมอง ภูมิหลัง และรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันในที่ทำงานโดยมีเป้าหมายเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง พยายามโฟกัสที่งานที่ทำอยู่มากกว่าความแตกต่างของแต่ละคน
เคารพตัวเอง
การเคารพตัวเองไม่ได้เกี่ยวกับการยืนหยัดในตัวเองเสมอไป บางครั้ง มันเกี่ยวกับการรู้วิธีเลือกการต่อสู้ของเราด้วย การปล่อยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ออกไป เช่น ความคิดเห็นที่ต่างไปจากเรา หมายความว่าคุณสามารถมีสมาธิกับการทำงานให้เสร็จโดยไม่ต้องเครียดโดยไม่จำเป็น
ไม่ยึดติดกับรูปแบบการสื่อสาร
ลองปรับรูปแบบการสื่อสารของเราให้เหมาะกับสไตล์ของอีกฝ่าย หากใครมีบุคลิกแบบเก็บตัว พยายามพูดคุยแบบตัวต่อตัว แทนที่จะคุยกันแบบกลุ่ม ถ้ามีคนชอบเปิดเผยมากกว่า ให้พูดคุยกับพวกเขาในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มและให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถแบ่งปันความคิดของพวกเขากับผู้อื่นได้
จำไว้ว่าคนเรานั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน
ไม่ใช่แค่ประเภทบุคลิกภาพและภูมิหลังที่มีอิทธิพลต่อเรา แต่ยังรวมถึงอารมณ์ของเราด้วย ตราบใดที่เราพยายามแยกชีวิตการทำงานออกจากชีวิตส่วนตัว เราทุกคนต่างมีคนและสถานการณ์นอกที่ทำงานที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์โดยทั่วไปของเรา จำไว้ว่าเราไม่มีทางรู้ว่าชีวิตส่วนตัวของคนอื่นกำลังเผชิญกับอะไรอยู่นั้นอาจเป็นประโยชน์ และบางครั้งเราทุกคนก็ต้องการระยะห่าง
พลิกแพลงการสื่อสารให้เข้ากับคนทุกรูปแบบไปกับคุณหนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรและเจ้าของเว็บไซต์ ‘Beartai’ ที่ครองอันดับ 1 ด้านนำเสนอเรื่องราวไอทีและเทคโนโลยี ได้ในคอร์ส “The Mastery of Communication – เอาชนะใจคนด้วยการสื่อสาร”
อ้างอิง https://bit.ly/3mrmURR https://bit.ly/3snzQw5
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…