ถ้าจะบอกว่า “อาชีพขายของออนไลน์” นั้นเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตลาด E-commerce มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเติบโตสูงสุดในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้ใครต่อใครต่างอยากเข้ามาในธุรกิจนี้ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีในการเริ่มต้นขายของออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ ว่าจะมีขั้นตอนอะไรบ้างและต้องเริ่มอย่างไร
1. ตามหาความต้องการในตลาด
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำในการขายของออนไลน์คือ การเลือกของที่จะมาขาย แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้เพิ่มเติมคือ ความต้องการและช่องว่างที่มีอยู่ในตลาด เพื่อให้เราสามารถเลือกสินค้าที่จะมาขายได้ตรงกับความต้องการในตลาดและจะได้รู้ว่าสินค้าที่เราจะนำมาขายนั้นมีความต้องการมากน้อยแค่ไหน
2. วางแผนพัฒนาธุรกิจ
สิ่งนี้จะเปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะคอยนำทางบริษัทของเรา เพราะแผนพัฒนาธุรกิจจะเป็นสิ่งที่คอยกำหนดทิศทางและเป้าหมายให้กับบริษัทของเรา เพื่อให้เราสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีแบบแผนและเป็นระบบ นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถคาดการณ์และรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
3. กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
สิ่งต่อไปที่เราต้องทำคือ การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้เรารู้ว่าเราจะขายสินค้าให้กับใครและจะต้องนำเสนอสิ่งใดบ้างที่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้จริง ๆ
4. ตั้งราคาให้เหมาะสม
การตั้งราคาสินค้าในธุรกิจ E-commerce นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากคู่แข่งที่มากในตลาดทำให้เราจำเป็นต้องมีการแข่งขันกันด้านราคาสินค้า ซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าของเราต้องลดลงมากกว่าตลาดปกติทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตั้งราคาคือต้องครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดของสินค้าและต้องสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเรา
5. จัดการสต๊อก
หนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการขายของออนไลน์คือ การจัดการสต๊อกสินค้า เพราะทุกสินค้าไม่ได้มีความต้องการที่เท่ากัน มีทั้งสินค้าที่ขายดีและขายไม่ดี การจัดการสต๊อกจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อควบคุมปริมาณสินค้าในคลังให้เพียงพอต่อการขาย การรู้จักวางระบบการจัดการสต๊อกสินค้าให้ดีและมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจ E-commerce
6. การนำเสนอสินค้าผ่านหน้าร้าน
สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจขายของออนไลน์คือการนำเสนอสินค้าผ่านหน้าร้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการสร้างช่องทางให้ลูกค้าได้เข้ามาเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้า การจัดหน้าร้านให้สะดวกต่อลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น จัดแบ่งประเภทของสินค้าให้ชัดเจน มีรูปและรายละเอียดของสินค้าชัดเจน เป็นต้น
7. ดึงดูดด้วยโฆษณา
โฆษณาคือ เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการดึงดูดลูกค้าให้หันมาสนใจในสินค้าของเรา รวมถึงยังสามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของเราได้ด้วย การทำโฆษณาจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจ E-commerce ที่เราไม่ควรมองข้าม
8. ขยายและต่อยอดธุรกิจ
เป้าหมายส่วนใหญ่ของการทำธุรกิจคือการพัฒนาและต่อยอดให้ธุรกิจไปได้ไกลมากขึ้น เพื่อสร้างกำไรและรองรับกับอัตราการเติบโตของธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธีตั้งแต่ การสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเอง การนำสินค้าใหม่มาขาย หรือ เจาะกลุ่มตลาดใหม่ ๆ เป็นต้น
อยากจะเริ่มขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ?
สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ คอร์ส How to Sell Well in eCommerce ‘สูตรลับขายดีออนไลน์’ ที่คุณเจตน์ จรุงเจริญเวชช์ CMO และ Partner แห่ง N-Squared eCommerce ผู้ผลักดันให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตจนสร้างยอดขายสินค้าถึง 6.6 ล้านชิ้นต่อปี จะมาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับและสูตรความสำเร็จในการขายของออนไลน์ ตั้งแต่การหาช่องว่างและโอกาสในตลาด eCommerce การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค การขายของที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
อ้างอิง https://bit.ly/3oQrdqX
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…