การโฆษณาคือ หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญในธุรกิจ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดให้ลูกค้าหันมาสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการ แต่เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดการค้าออนไลน์ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น เราจึงต้องออกแบบโฆษณาที่สามารถดึงดูดและมัดใจลูกค้าเอาไว้ให้ได้ วันนี้เราเลยนำเทคนิคการโฆษณามาฝากทุกคน จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อทันที
การโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อสินค้าโดยทันที เพราะโฆษณารูปแบบนี้จะทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ามากกว่าการโฆษณารูปแบบอื่น ซึ่งวิธีที่นิยมที่สุดคือ การขายหรือลดราคาสินค้าแบบมีเวลาจำกัด เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียดายหากไม่ได้ซื้อสินค้าในเวลานี้
2. มี Call to Action (CTA) ที่น่าดึงดูดหรือกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า
CTA คือ ปุ่มหรือป้ายแบนเนอร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร มักจะอยู่บนเว็บไซต์หรือโฆษณาต่าง ๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อนำมาลูกค้าไปสู่หน้าร้านค้าหรือสินค้าของเรา ลักษณะของ CTA ที่ดีจึงต้องประกอบไปด้วยคำที่น่าดึงดูดและเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า ซึ่งคำเหล่านี้นอกจากมีจุดประสงค์ในการดึงดูดลูกค้าแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาเลือกดูร้านค้าหรือสั่งซื้อสินค้าด้วย
3. ภาพที่น่าดึงดูด
เพราะสิ่งแรกในโฆษณาที่สามารถดึงดูดความสนใจของคนได้คือภาพ ภาพจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในโฆษณาที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าสนใจและเข้ามามีส่วนร่วมกับเรามากขึ้น การออกแบบภาพด้วยสีสันสดใสและมีตัวหนังสือที่อ่านง่ายจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้ภาพของเราโดดเด่นมากขึ้น
4. มีคำรับรองและยืนยันจากลูกค้าผู้ใช้จริง
ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการในครั้งแรกจากคำรีวิวหรือคำยืนยันของลูกค้าท่านอื่นที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์จริง เพราะลูกค้าจะได้เห็นถึงประสิทธิภาพและความพึงพอใจในสินค้าจากลูกค้าท่านอื่น ที่ช่วยให้เขารู้สึกมั่นใจที่จะซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น โฆษณาที่ดีจึงจำเป็นต้องมีคำรับรองและยืนยันจากลูกค้าผู้ใช้จริงประกอบอยู่ด้วย
5. ต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ในการทำโฆษณาเราจำเป็นต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของเราก่อน เพื่อให้สามารถสร้างโฆษณาที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องเริ่มจากการทำวิจัยทางการตลาด โดยการหาข้อมูลเชิงลึกหรือ Insigt ของลูกค้าตั้งแต่ เพศ อายุ ความสนใจ หรือ สื่อออนไลน์ที่ใช้ เพื่อให้เราเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง เมื่อเรารู้แล้วว่าลูกค้าต้องการอะไร เราก็จะสามารถออกแบบโฆษณาที่สามารถดึงดูดและตอบโจทย์กับต้องการของลูกค้าได้
6. โฆษณาในช่วง Mega Campaign
การโฆษณาในช่วง Mega Campaign ตามแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Lazada, Shopee จะทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า เพราะมีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้ามากกว่าปกติ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มักเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในช่วง Mega Campaign เพราะอาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมและมีสินค้าที่ลดราคา การโฆษณาในช่วง Mega Campaign จึงทำให้ลูกค้ามีโอกาสเห็นโฆษณาของเรามากขึ้น
7. เลือกโฆษณาให้เหมาะสมกับช่องทางแต่ละประเภท
การโฆษณาในตลาดออนไลน์นั้นมีช่องทางอยู่ 2 ประเภทได้แก่ Offsite Marketing คือ การโฆษณาที่อยู่นอกแพลตฟอร์มการขายของออนไลน์อย่างสื่อโซเชียลต่าง ๆ และ Onsite Marketing คือ การโฆษณาที่อยู่บน Marketplace อย่าง Lazada และ Shopee ซึ่งแต่ละช่องทางต่างก็มีจุดประสงค์ที่ต่างกันออกไป โดยการโฆษณาบน Offsite Marketing มีจุดประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับสินค้าและร้านค้าของเรา เหมาะกับโฆษณาที่เน้นการแนะนำสินค้าเป็นหลัก ส่วน การโฆษณาบน Onsite Marketing นั้นมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเรา ซึ่งการโฆษณาประเภทนี้เราต้องเน้นนำเสนอไปที่รายละเอียดและสรรพคุณของสินค้า เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
เรียนรู้เทคนิคการขายของออนไลน์อย่างไรให้มัดใจลูกค้าไปกับ
คุณเจตน์ จรุงเจริญเวชช์ CMO และ Partner แห่ง N-Squared eCommerce ผู้ผลักดันให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตจนสร้างยอดขายสินค้าถึง 6.6 ล้านชิ้นต่อปี ที่จะมาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับและสูตรความสำเร็จในการขายของออนไลน์ ตั้งแต่การหาช่องว่างและโอกาสในตลาด eCommerce การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค การขายของที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและอื่น ๆ อีกมาก ในคอร์ส How to Sell Well in eCommerce ‘สูตรลับขายดีออนไลน์’
อ้างอิง https://bit.ly/3owQGoW
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…