เคยสงสัยไหมว่าทำไมตอนเด็ก ๆ เราถึงชอบฟังนิทาน หรือโตขึ้นมาก็ชอบฟังเพลงที่มีเนื้อหากินใจพอจะทำให้รู้สึกยิ้มหรือร้องไห้ตามได้? เรามีคำตอบว่าทำไมการเล่าเรื่องถึงทรงพลังนัก
การเล่าเรื่องมีอยู่ทุกที่
“การเล่าเรื่อง” หรือ Storytelling มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่งานอีเวนต์ บทเพลง ภาพยนตร์ สัมมนาออนไลน์ รวมถึงการสื่อสารกลยุทธ์ทางธุรกิจ
การฟังเรื่องเล่าก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตลอด หากย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนเด็กที่เรานั่งฟังนิทานจากคุณพ่อคุณแม่ พอโตขึ้นมาฟังเรื่องเล่าจากคนรอบตัวและสื่อต่าง ๆ ทำให้การเล่าเรื่อง หรือ Storytelling เป็นเสมือนอาหารทางจิตใจและจิตวิญญาณของทุกคน
เราจึงชอบที่จะฟังเพลงที่มีเนื้อหาโดนใจ ดูหนังหรือคลิปวิดีโอที่มีเรื่องราวน่าติดตาม รวมถึงอ่านนิยายเล่มหนาได้อย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดเกิดจาก Storytelling ที่อยู่เบื้องหลัง
จะเกิดอะไรขึ้นในสมองเมื่อเราได้ยินเรื่องราวดี ๆ ?
เรื่องราวที่ดีจะช่วยกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของสมอง ยกตัวอย่างเช่น ต่อมทอนซิล ที่มีบทบาทสำคัญในการถ่ายโอนการเรียนรู้ใหม่ไปสู่หน่วยความจำระยะยาวของสมองได้ เราจึงมักจะจำข้อมูลที่เป็นลักษณะของเรื่องเล่าได้ดีกว่าข้อเท็จจริงหรือตัวเลขมากถึง 22 เท่า
เรื่องราวที่ดีจะผลิตฮอร์โมน ‘ความรัก’ ที่เรียกว่า Oxytocin ซึ่งทำให้คนเราเกิดความเห็นอกเห็นใจ และมีความไว้วางใจกับคนอื่นมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เรามักจะเชื่อมโยงเรื่องราวกับแบรนด์หรือบุคคลที่มีความสอดคล้องกับตัวตนของเราและสิ่งที่เราอยากเป็น
มีสถิติที่น่าสนใจบอกไว้ว่า “ช่วงความสนใจเฉลี่ยคนเราอยู่ที่ 7-8 วินาที” ดังนั้นการจะดึงดูดหรือโน้มน้าวใจคนได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการสื่อสารเรื่องที่มีความหมายกับผู้ฟัง ดังนั้นจึงไม่ค่อยแปลกใจว่าทำแบรนด์ต่าง ๆ พยายามใช้เรื่องราวเข้ามามีส่วนร่วมกับการทำการตลาดอยู่ตลอด
ทุกคนล้วนมีเรื่องราว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกคนมีเรื่องราวและอยากแบ่งปันให้คนอื่นรับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่โซเชียลมีเดียเติบโตขึ้นและมีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก เราทุกคนก็กำลังแบ่งปันเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวจากชีวิต การเดินทาง วันทำงาน อาหารเมนูโปรด รวมถึงเพลงที่ชอบ
ขณะเดียวกันเราจะเห็นว่าความสะดวกของเทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญให้เราทุกคนกลายเป็นนักสร้างคอนเทนต์ได้เพียงปลายนิ้วมือ ทั้งถ่ายคลิปลง Youtube หรือ Tiktok บางคนก็อัพรูปลง IG รวมถึงบางคนก็สร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบภาพยนตร์สั้นหรือเพลงด้วย
Storytelling ช่วยสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง
ชวนทุกคนมาเรียนรู้เทคนิคการเขียนเพลง และค้นหาแรงบันดาลใจจากนักแต่งเพลงมืออาชีพ กลั่นความคิดเป็นเรื่องราว และเขียนถ้อยคำให้เป็นเพลง กับ ‘บทเรียน’ จากเจ้าของ ‘บทเพลงรัก’ ที่จะทำให้คุณเริ่มต้นแต่งเพลงได้
ในคอร์ส “The Art of Songwriting – ศิลปะแห่งเพลงและท่วงทำนอง” โดย คุณบอย โกสิยพงษ์ โปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงผู้อยู่เบื้องหลังเพลงรักสุดฮิตแถวหน้าของเมืองไทย อดีตผู้บริหารค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิค และค่ายเพลงเลิฟอีส จะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกคนว่าก่อนจะแต่งเพลงและถ่ายทอดให้จับใจคนฟังได้นั้น เราควรรู้ก่อนว่าเรื่องราวในเพลงที่เราจะเล่าสำคัญอย่างไรและส่งผลอย่างไรต่อความรู้สึก พร้อมแชร์ไอเดียสร้างสรรค์บทเพลงของตัวเองให้กลายเป็นสุดยอดเพลงฮิตได้
อ้างอิง https://bit.ly/3aJclqT https://bit.ly/3IIrwwZ
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเ…
