‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต’ สำคัญอย่างไร
ทำไมแม้เรียนจบแล้วก็ไม่ควรหยุดเรียนรู้
โลกของเราหมุนเร็วขึ้นทุกๆ วัน
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2015-2020 นั้นยิ่งใหญ่กว่าเมื่อปี 1995-2000 มาก หากมองในแง่ดี การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้น แต่ในอีกแง่หนึ่ง การต้องปรับตัวให้ทันกระแสโลกก็ทำเอาเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าตามไม่ทัน ก็อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” จึงสำคัญ
การเรียนรู้ตลอดชีวิตคืออะไร?
การเรียนรู้ตลอดชีวิตคือการค้นคว้าหาความรู้อย่างต่อเนื่องโดยที่เราสมัครใจทำเอง
การเรียนรู้ตลอดชีวิตมีประโยชน์อะไรกับเราบ้าง?
ในแง่ของการทำงาน การเรียนรู้ตลอดชีวิตจะเพิ่มทั้งความมั่นคงต่องานปัจจุบันและความได้เปรียบให้กับตัวเราเองเมื่ออยากออกไปหางานใหม่ เพราะการที่เราคอยอัปเดตความรู้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เรารู้ว่าคุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นในปัจจุบันและในอนาคตมีอะไรบ้าง ยิ่งเรารู้ว่าอะไรกำลังเป็นที่ต้องการเร็วเท่าไร เราก็จะยิ่งมีเวลาศึกษามากเท่านั้น และนั่นก็ทำให้เราโดดเด่นและเป็นที่ต้องการ เพราะน้อยคนมีทักษะอย่างที่เรามี
การเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลายังช่วยเติมเชื้อไฟในตัวเราขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเมื่อเราได้ลองทำไรที่แตกต่างและอยู่นอกเหนือขอบเขตงานที่เราทำประจำ เราก็จะได้เห็นงานเดิมของเราในมุมที่ต่างออกไป ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับงานที่ทำอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่รู้สึกว่ามันซ้ำซากจำเจ
ในแง่ของชีวิตส่วนตัว การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ที่สิ่งที่เกี่ยวกับงานเสมอไป การเรียนรู้ในสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป เล่นดนตรี ทำอาหาร ก็เป็นการเติมเต็มแง่มุมอื่นของชีวิตนอกจากงาน หรือจะเป็นการเรียนรู้ทักษะสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างเรื่องภาษีหรือการเงินก็ได้ เพราะทักษะเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ต้องหาเรียนนอกห้องเรียนทั้งนั้น นอกจากนี้การได้เรียนรู้อะไรเพิ่มจนเห็นพัฒนาการของตัวเองจะทำให้ทั้งความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตัวเราเพิ่มขึ้น
จะทำอย่างไรให้เราไม่หยุดเรียนรู้?
การคิดว่า “เราจะไม่หยุดเรียนรู้” นั้นต่างกับการที่เราเริ่มเรียนรู้ และการที่เราเริ่มเรียนรู้ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ล้มเลิกตั้งแต่เนิ่นๆ เห็นได้จากสถิติการเรียนไม่จบคอร์สออนไลน์แต่ละคอร์สที่มีตั้งแต่ 40-80%
แล้วจะทำอย่างไรให้ฝึกการเรียนรู้ตลอดชีวิตจนเป็นนิสัย?
1 เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความล้มเหลว
เราเคยชินกับรูปแบบการเรียนในโรงเรียนที่วัดผลทุกอย่างผ่านคะแนนและเกรด นั่นทำให้เรากลายเป็นคนกลัวความผิดพลาดและความล้มเหลวจนไม่อยากลองเรียนรู้อะไรแปลกใหม่ที่เราไม่เคยลองมาก่อน แต่การเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ควรเป็นอย่างนั้น เราควรมองว่าความล้มเหลวเป็น ‘ส่วนหนึ่ง’ ที่จะทำให้เราเก่งขึ้น เพราะทุกครั้งที่เราทำพลาด เราจะมองเห็นว่าจุดอ่อนของเราอยู่ตรงไหน แล้วจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร
2 ตอบตัวเองให้ได้ว่าอยากรู้อะไรเป็นพิเศษ
การที่เรามีความชอบหลายอย่างไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนความสนใจเป็นนิสัยติดตัว เราก็จำเป็นต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ถ้าเราเรียนไปอย่างสะเปะสะปะ เราจะกลายเป็นคนที่รู้อะไรหลายอย่างแค่เพียงผิวเผิน แต่กลับไม่รู้อะไรลึกซึ้งสักอย่าง ตอบตัวเองให้ได้ว่า “อะไรสำคัญกับเราที่สุด?” และ “เราอยากได้ผลลัพธ์แบบไหนจากการเรียนรู้?” เช่น นาย A อาจจะเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการไปหมาดๆ เขาเลยมองว่าความเป็นผู้นำเป็นสิ่งที่เขาควรให้ความสำคัญ เพราะอยากนำทีมให้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพ
แต่ขอโน้ตไว้นิดหนึ่งว่า เราไม่จำเป็นต้องโฟกัสแค่สิ่งเดียวไปตลอดชีวิต สิ่งที่เราสนใจสามารถเปลี่ยนได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละช่วงเวลาจะช่วยกำหนดทิศของการเรียนรู้ได้ดีขึ้น
3 ตั้งเป้าหมายการเรียนให้ชัดเจน
เมื่อรู้แล้วว่าอยากโฟกัสกับอะไรเป็นพิเศษ เราก็สามารถออกแบบการเรียนรู้โดยให้น้ำหนักตามความสำคัญ เช่น ถ้าเรามีเป้าหมายกว้างๆ ว่าอยากอ่านหนังสือให้ได้ 25 เล่มต่อปี เราก็อาจจะแบ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเดียวที่เราโฟกัสสัก 10 เล่ม ส่วนอีก 15 เล่มจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ได้ที่เราให้ความสนใจรองลงมา
4 เผื่อสล็อตเวลาสำหรับการเรียนรู้ด้วย
ถ้าเราไม่กำหนดช่วงเวลาการเรียนรู้ให้ชัดเจนลงในตารางเวลาของเราแต่แรก สุดท้ายเรื่องยุ่งๆ ในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญก็จะกลืนกินความตั้งใจที่จะเรียนรู้ของเรา แล้ววันนี้ก็จะเป็นอีกวันที่เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
การแบ่งสล็อตเวลามาเพื่อเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องเป็นสล็อตที่ใหญ่มาก แค่เจียดเวลาสัก 15 นาทีต่อวันมาก็เยี่ยมมากแล้ว ช่วงเวลาที่เลือกมาจะเป็นตอนไหนก็ได้ตามที่เราสะดวก จะเป็นตอนพักทานข้าว ตอนเดินทางไปทำงาน หรือก่อนนอนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมองว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ใช่แค่ควรทำ ไม่อย่างงั้นเราก็จะเลื่อนมันออกไปเรื่อยๆ
เรียนรู้ตลอดชีวิตไปกับ CARIBER แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และประสบการณ์จากผู้นำองค์กรและผู้เชี่ยวชาญในทุกแวดวง ไร้ข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา เริ่มพัฒนาตัวเองตั้งแต่วันนี้
อ้างอิง
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเ…
