เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ : เมื่อทางเลือกมีมากกว่าคนอื่น 1 ทาง ผู้สานต่อธุรกิจของครอบครัวและแชร์ประสบการณ์ทายาทธุรกิจผ่านเพจ ‘ทำที่บ้าน’

หากใครชอบติดตามเพจที่เกี่ยวกับธุรกิจ ก็อาจจะคุ้นชื่อเพจ ทำที่บ้าน กันมาบ้าง วันนี้ #CareerTalk มีโอกาสพูดคุยกับ กวาง-เสสินัน นิ่มสุวรรณ์ นักเขียนและเจ้าของเพจ ทำที่บ้าน ในฐานะทายาทธุรกิจที่ต้องสานต่อธุรกิจของครอบครัว

ชวนทุกคนมาพบกับเส้นทางการทำงานและมุมมองของทายาทธุรกิจที่กลับมาช่วยงานที่บ้าน สิ่งที่ทายาทธุรกิจควรทำ รวมถึงความยากและอีกหลายแง่มุมของการสานต่อธุรกิจครอบครัว จนเป็นที่มาของประโยคในชื่อหนังสือของเขาว่า “ยากกว่าทำธุรกิจ คือทำธุรกิจครอบครัว” 

ติดตามได้ที่นี่

#ทายาทธุรกิจ

กวางในวัยเด็กเติบโตมาท่ามกลางการทำธุรกิจของครอบครัวเพราะที่บ้านทำกิจการปั๊มน้ำมันที่จังหวัดลพบุรีมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่แบรนด์ ปตท. ยังใช้ชื่อว่า สามทหาร

กวางเล่าว่าเขาซึมซับเรื่องงานบัญชี รับลูกค้า เขียนบิล เพราะพ่อแม่สอนงานและฝึกให้ช่วยงานมาตลอด เพราะบ้านและออฟฟิศคือที่เดียวกัน ยิ่งโตขึ้นก็ได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจมากขึ้นเพราะพ่อแม่ส่งไปอบรมทุกครั้งมาเรื่อย ๆ นั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตนี้มีการทำธุรกิจเป็นความฝันที่ค่อย ๆ ก่อร่างขึ้นมา

#สานต่อธุรกิจ

กวางอยากเป็นนักธุรกิจ เพราะคนรอบข้างและครอบครัวทำธุรกิจมาตั้งแต่เขาจำความได้ “เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่เห็นภาพของการทำงานอื่นนอกจาก หมอ ทหาร หรือทำธุรกิจส่วนตัว รวมถึงการศึกษาไทยไม่ได้ฉายอาชีพให้เห็นมากนัก เราก็จะไม่เห็นว่าคนที่ทำเอเจนซีโฆษณาหรือสตาร์ทอัปเขาทำอะไรกัน” เขาเสริม

หลังเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กวางกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านทันที โดยก่อนหน้านั้นเขาใช้ช่วงปิดเทอมทำอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ ตั้งแต่การเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารจนถึงการรับของมาขาย เขาบอกว่าจุดนั้นทำให้ได้เริ่มเรียนรู้การเป็นดีลเลอร์ ซึ่งตรงกับที่บ้านที่ทำธุรกิจดีลเลอร์เหมือนกัน

แม้หลายคนที่เป็นทายาทธุรกิจอาจจะต้องผ่านจุดที่เลือกว่าจะไปทำงานเก็บประสบการณ์ก่อน หรือ กลับมาสานต่อธุรกิจเลย แต่กวางบอกว่าจุดที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่เรียนอยู่ปี 2 แล้ว “เราคิดอย่างนี้ว่า ประสบการณ์ไม่จำเป็นต้องหาได้จากข้างนอกอย่างเดียว เพราะเรามองหาได้จากการกลับไปช่วยหน้างานที่บ้านได้ เช่น ถ้าไม่มีความรู้การตลาด ก็ไปเทคคอร์สเสริมได้” เขาเสริม

#ความยากของธุรกิจครอบครัว

ส่วนใหญ่ธุรกิจ SME ไทยมีรูปแบบเป็นธุรกิจครอบครัว กวางบอกว่าเขาเคยทำโพลเล็ก ๆ สอบถามทายาทธุรกิจรอบตัวว่ากลับมาทำธุรกิจที่บ้านด้วยเหตุผลใด ซึ่งกว่า 80% ตอบว่า เพราะความรับผิดชอบ

ความยากของการกลับมาช่วยงานที่บ้านเป็นความลำบากใจสำหรับหลายคนด้วย เพราะบางคนอยากทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจ นอกจากนี้อีกหนึ่งความยากคือ คนนอกไม่ค่อยเข้าใจ เวลาคุยกับเพื่อนรอบตัวเหมือนคุยคนละภาษา

แม้สายตาจากคนนอกมักจะมองว่าการช่วยธุรกิจบ้าน สบายจะตาย มีเงินให้ใช้ได้ไม่จำกัด แต่กวางให้คำตอบกับเรื่องนี้ว่า

“เรากลับมาช่วยที่บ้าน เงินของธุรกิจก็ยังเป็นของธุรกิจ ต่อให้เราไม่มีหนี้สินใด ๆ เพราะทรัพย์สินก็ยังเป็นของที่บ้าน แต่สิ่งที่เราได้ก็ยังเป็นเงินเดือนอยู่ เหมือนเราเป็นพนักงานคนหนึ่ง ส่วนเงินธุรกิจก็ต้องเอาไปลงทุนต่อ เหมือนเราเป็นซีอีโอ ก็เอาเงินบริษัทไปใช้ไม่ได้ เพราะมีหน้าที่แค่บริหารเท่านั้น”

เขายังเสริมว่าหากไม่นับปัญหาภายนอก ปัญหาภายในที่ยากไม่ต่างกัน คือ หลายครอบครัวไม่มีการจัดการที่ดีของทรัพย์สินต่าง ๆ แก่พี่น้องลูกหลาน บางครอบครัวอยากให้ลูกหลานแฟร์ จึงให้เงินเดือนเท่ากันหมดเพราะแสดงถึงการรักลูกหลานเท่ากัน ทว่าในความเป็นจริงแล้วหน้าที่และความรับผิดชอบงานของแต่ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้

#เจ้าของธุรกิจที่ไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ

กวางเล่าว่าการสานต่อธุรกิจที่บ้านทำให้ไม่มีเวลาที่ตายตัว เพราะธุรกิจกับเรื่องงานเป็นสิ่งที่ไปคู่กันตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาเลิกงาน ขณะเดียวกันแม้จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมแต่ก็เป็นพนักงานคนหนึ่งที่จ้างมาให้ทำงาน “เหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ” เขากล่าวเสริม

หากมองถึงข้อดีหรือข้อเสีย กวางบอกว่าการทำธุรกิจกับที่บ้านมีทั้งสองด้าน โดยข้อดีคือช่วยทำให้ธุรกิจเดินหน้า ขับเคลื่อนตลอดเวลา รวมถึงพอธุรกิจเปิดมานานก็จะมียอดขายและฐานลูกค้าอยู่แล้ว แต่ก็มีความยากในการปรับเปลี่ยนธุรกิจ รวมถึงพอไม่มีเวลาส่วนตัวมากนักเมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ

#จุดเริ่มต้นของเพจ #ทำที่บ้าน

เพจ ‘ทำที่บ้าน’ เกิดจากตัวของกวางเองที่กลับมาช่วยธุรกิจของที่บ้าน แต่พอทำสักระยะหนึ่งเขารู้สึกว่าการที่คนเข้ามารับช่วงต่อต้องเจอปัญหาคล้ายกันก็คือ เปลี่ยนแปลงธุรกิจไม่ได้ เสนอไอเดียอะไรก็โดนปฏิเสธ ท้อและหมดกำลังใจทำต่อ

“เราก็คุยกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนก็เจอ ว่าเราจะปรึกษาใครได้ ก็ไม่มี พออ่านหนังสือก็พบว่าไม่มีใครหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ก็เลยตั้งคำถาม ว่าทำไมไม่มีใครหยิบขึ้นมา ทั้งที่เป็นปัญหาจริงที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา”

หากใครติดตามเพจทำที่บ้านอยู่ จะพบว่าเนื้อหาช่วงแรก คือการเล่าปัญหาที่เจอจริง ๆ ก่อนที่กวางจะปรับและพัฒนามาเรื่อย ๆ สู่การแชร์เทคนิคต่าง ๆ รวมถึงพูดคุยกับรุ่นพี่ที่ทำธุรกิจอยู่ด้วย ทั้งหมดเกิดเป็นพื้นที่แบ่งปันความคิดและประสบการณ์จากทายาทธุรกิจตัวจริง นอกจากนี้เนื้อหาก็โดนใจใครหลาย ๆ คน ทำให้ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือในชื่อ ‘ทำที่บ้าน ยากกว่าทำธุรกิจ คือทำธุรกิจครอบครัว : How to Work in a Family Business’ ด้วย

#อนาคตของกวางและธุรกิจ

เป้าหมายที่กวางแชร์ให้ฟังคือเขาอยากสานต่อให้ธุรกิจเติบโตต่อไป ปัจจุบันขยายสาขาปั๊มเพิ่มขึ้น และตั้งใจจะทำแบบนี้ต่อไป เพราะธุรกิจปั๊มโตได้เพราะการขยายสาขาต่อ ทว่าในโลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและธุรกิจอาจถูกดิสรัปท์ เขาก็ไม่อยากฝากทุกอย่างไว้กับธุรกิจปั๊มน้ำมัน จึงพยายามแตกไลน์ธุรกิจและเริ่มอยากปรับตัวธุรกิจให้เป็นที่รักของชุมชนมากขึ้น โดยเน้นสร้างเป็นคอมมูนิตี้ให้คนมาเจอกัน 

ส่วนเพจทำที่บ้าน เป้าหมายต่อไปเขาอยากจะจดเป็นบริษัทและมีบริการให้มากขึ้น รวมถึงกำลังซุ่มทำหนังสือเล่ม 2 ที่ฝากให้ทุกคนติดตามและสนับสนุนกันต่อ

#สิ่งที่ทายาทธุรกิจควรทำ

กวางแนะนำ 2 เรื่อง คือ การบริหารจัดการงาน และการบริหารความสัมพันธ์ ที่เขาย้ำว่าต่อให้ทายาทแยกได้ แต่ผู้ใหญ่แยกไม่ได้ “ถ้าเกิดความสัมพันธ์ในครอบครัวดี มันก็จะเป็นเหมือนสปริงบอร์ดที่ดีในการทำงานด้วย เพราะการทำงานจะราบรื่นไปด้วย แต่ถ้าความสัมพันธ์หน่วง ๆ มันก็จะทำให้การทำงานยากขึ้นไปอีก” กวางกล่าว

ช่วงแรกที่เขาเข้ามาช่วยงานที่บ้านก็โดนบ่นบ่อยครั้ง มีคำที่ฟังแล้วอึดอัดเสียใจ แต่ก็เข้าใจว่าทั้งหมดล้วนเป็นเจตนาที่ดี ซึ่งวิธีการคือปรับง่าย ๆ มองให้เห็นถึงเจตนาของผู้ใหญ่ นอกจากนี้ก็ควรทำความสำเร็จเล็ก ๆ ให้ได้รับการยอมรับไปเรื่อย ๆ ด้วย

สิ่งที่กวางทำในช่วงแรกคือการ ‘ตอดงาน’ หมายถึง อะไรก็ตามที่พ่อแม่เคยทำ เขาก็จะทำตาม เช่น การเขียนบัญชีด้วยมือ ซึ่งเขาบอกว่าเมื่อทำได้สักระยะหนึ่ง ผู้ใหญ่ก็จะเริ่มไว้ใจ ก็ปล่อยให้เราทำ พอมีความรับผิดชอบแล้ว เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงบริษัทในทิศทางที่เราอยากทำได้ ดังนั้นให้โฟกัสและค่อย ๆ ทำ โดยเน้นการเรียนรู้จากการทำงานเก่า ๆ

#พิสูจน์แล้วก็อย่าทิ้งหมด

กวางบอกว่าอยากแนะนำสำหรับทายาทที่กลับมาช่วยงานที่บ้านอีกเรื่องหนึ่งว่า พอเราพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำอีกอย่างให้กับคนที่บ้านคือเหลืออะไรไว้ให้เขาทำบ้าง เขาอธิบายเหตุผลเสริมว่าก็เพราะธุรกิจที่ครอบครัวรุ่นพ่อแม่ทำมาหลานสิบปีมันคือชีวิตของพวกเขาที่สร้างและทุ่มเทมา ดังนั้นการมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้ทำ จะทำให้พวกเขารู้สึกมีว่ายังมีหน้าที่รับผิดชอบและมีคุณค่าต่อธุรกิจอยู่

#ฝากถึงทายาทธุรกิจ

สำหรับคนที่บ้านมีธุรกิจแต่ทำอย่างอื่นอยู่ กวางแนะนำว่า การที่เราเกิดมาเป็นทายาทให้คิดเสมอว่าเราไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป แม้ว่าจะมีทางเลือกมีมากกว่าคนอื่น 1 ทาง แต่มันไม่ใช่ทางบังคับที่จะต้องเลือกทางนี้ ดังนั้นอย่าให้คำว่ารู้สึกผิด หรือกตัญญู มาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป

ส่วนทายาทธุรกิจที่ยังไม่รู้ตัวเองหรือกำลังค้นหาอยู่ ก็อยากให้ลองก่อน ถ้าหากต่อยอดได้ ก็เป็นโอกาสไปได้ไกลกว่าคนอื่น ถ้ากลับมาแล้วไม่ใช่ ทุกคนก็มีอิสระที่จะเลือกเส้นทางอื่น ซึ่งมันจะส่งผลดีกับตัวเราและธุรกิจที่เราไม่ได้ชอบด้วย

สิ่งสำคัญที่กวางเน้นย้ำคือการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องใช้เวลา และการทำธุรกิจครอบครัวคือการสร้างรายได้ให้กับคนในครอบครัวทุกคน ดังนั้นไม่ว่าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งใดก็ให้คิดว่าสิ่งนั้นจะส่งผลต่อคนอื่นในครอบครัวด้วย

#ฝากถึงทุกคน

เหมือนที่พูดคุยกันมาตั้งแต่แรกว่าคนที่กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านหรือเป็นทายาทธุรกิจ มักจะโดนคนภายนอกเข้าใจผิดว่า รวย สบาย ไม่ต้องเริ่มต้นทำเอง ซึ่งกวางบอกว่าจริงแค่บางส่วน เพราะบางกลุ่มเกิดมามีครอบครัวร่ำรวยก็มีอยู่จริง แต่ก็มีอีกกลุ่มที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น บางคนที่บ้านธุรกิจที่บ้านไม่ดี กำลังประสบปัญหา เป็นหนี้ โดยเฉพาะธุรกิจของครอบครัวเขา อยู่ในช่วง Sunset ใกล้ถูกดิสรัปท์ เขาในฐานะทายาทก็ต้องหา New S Curve ใหม่ นอกจากนี้ก็มีความกดดันที่ต้องแบกรับเพราะครอบครัวรุ่นพ่อแม่ทำไว้ดีแล้ว หากสานต่อผิดทิศก็อาจเสียหายได้ ดังนั้นอยากให้คนนอกเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสุขสบาย และความเห็นนี้อาจจะไม่แฟร์สำหรับคนที่กลับมาช่วยงานที่บ้านหลายคนด้วย

“คนที่กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน เหมือนเรากลับมาทำงานเป็นพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งบริษัทนั้นเป็นของที่บ้าน แค่นั้นเลย” เขาทิ้งท้าย

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights