ศิระ เอกบุตร: ผู้ก่อตั้ง ‘เทพเอ็กเซล’ เพจให้ความรู้คนทำข้อมูล

Excel” เพียงแค่เราเห็นคำๆ นี้ เราก็ต้องนึกภาพกันถึงโปรแกรมสีเขียวที่มีตารางกับตัวเลขชวนยี้เต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่มีชายคนหนึ่งทำเพจให้ความรู้และเคล็ดลับการใช้โปรแกรมนี้ให้ง่ายขึ้นโดยมีชื่อตามความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขาว่า “ThepExcel” (เทพExcel)

วันนี้ Career Fact จะมานำเสนอเรื่องราวของ “พี่ศิระ” เด็กวิศวะที่เคยหลงทางสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลและเทพ Excel ที่มีผู้ติดตามกว่าหนึ่งแสนคน

ชีวิตในวัยเด็ก

พี่ศิระเติบโตมาในครอบครัวฐานะปานกลาง โดยเมื่ออายุได้ 15 ปี คุณแม่ของพี่ศิระเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง แต่โชคยังดีที่คุณพ่อมีหน้าที่การงานดีพอสมควรจึงไม่เกิดปัญหาเรื่องรายได้

ในวัยเด็กพี่ศิระเป็นคนที่ชอบอ่านการ์ตูนมากจึงเคยมีความฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มาลงเอยกับการเรียนสายวิทย์เหมือนกับคุณพ่อ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่เด็กที่เรียนดีมากนัก แถมไม่ค่อยได้คิดอย่างจริงจังด้วยว่าอยากจะเรียนต่อคณะอะไรหรือทำอาชีพอะไร

พอเข้าสู่ช่วงมหาลัย พี่ศิระที่ยังไม่รู้ตัวเองมีตัวเลือกอยู่ 2 ทางซึ่งเป็นที่นิยมของเด็กสายวิทย์นั่นก็คือ “หมอ” และ “วิศวะ” แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ถนัดวิชาชีวะอย่างแรงบวกกับไม่ชอบลักษณะงานของอาชีพหมอ เขาจึงมุ่งหน้าสู่สายวิศวะอย่างเต็มตัวซึ่งเขาสามารถทำคะแนนสอบได้สูงจนสอบติดวิศวะจุฬาได้สำเร็จ

เด็กวิศวะผู้หลงทาง

ในช่วงปีแรกของการเรียน พี่ศิระทำเกรดได้ไม่ดีนักเนื่องจากไม่ค่อยตั้งใจเรียน จึงทำให้เขาไม่ติดสาขาที่ตัวเองอยากเรียนและไปลงเอยกับสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นเขาก็ตั้งใจเรียนมากขึ้นจนทำเกรดได้ดีพอสมควร อย่างไรก็ตามพอจบจากมหาลัย เขาก็ไม่ได้เลือกทำงานตรงสายเนื่องจากเขาไม่ได้มีความสนใจในด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

พี่ศิระตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปสมัครเรียนแอนิเมชั่น 3 มิติตามความชอบของตนเอง และพยายามทำโปรเจกต์เพื่อไปสมัครงาน แต่สุดท้ายก็มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะเขาไม่ได้เรียนจบมาตรงสายจึงสู้คนที่จบสายนี้มาโดยตรงไม่ได้ นอกจากนั้นการทำงานแอนิเมชั่นคนเดียวนั้นก็เป็นเรื่องยากลำบากพอตัว

สุดท้ายพี่ศิระก็ต้องหันกลับมาสมัครงานด้านวิศวะอีกครั้ง เขาได้งานในบริษัทที่ควบคุมอุปกรณ์ในโรงงานซึ่งการทำงานที่นี่ทำให้เขาฝึกการมองสิ่งต่างๆ อย่างเป็นระบบมากขึ้น (ส่งผลต่อตรรกะการเขียนสูตร Excel ด้วย) แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องเดินทางไปกลับต่างจังหวัดบ่อย เขาทำงานอยู่ที่นี่ได้หนึ่งปีก่อนที่จะออกมาเรียนต่อปริญญาโท MBA ที่จุฬา ซึ่งในระหว่างเรียนปริญญาโท เขาก็ทำงานออกแบบกราฟิกและดูแลเว็บไซต์ให้กับสมาคมผู้วิจัยยาควบคู่ไปด้วย

สู่การทำงานสายข้อมูลที่ KBANK

ในช่วงการเรียนต่อโทนี้เองที่ทำให้พี่ศิระรู้ว่าตัวเองชอบงานเกี่ยวกับข้อมูลและตัวเลข นอกจากนั้นเขายังได้เรียนรู้ว่าโปรแกรมอย่าง “Excel” ทำอะไรได้เยอะมากๆ หลังจากเรียนจบ พี่ศิระจึงเริ่มตระเวนหางานที่เกี่ยวกับข้อมูลซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ธนาคารกสิกรไทยต้องการพนักงานที่มีความรู้เรื่องข้อมูลเข้ามาในทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อพอดี เขาจึงได้รับเลือกเข้าทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยในที่สุด

เมื่อเข้าทำงานได้ไม่กี่วัน พี่ศิระก็ได้รับโปรเจกต์พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและพัฒนาระบบการจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เขาจึงต้องพยายามศึกษาข้อมูลและเรียนรู้การใช้โปรแกรม Excel และ Access ด้วยตัวเองผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งส่วนใหญ่ในสมัยนั้นมีแต่ข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ นั่นทำให้เขามั่นใจว่าก่อนที่จะศึกษาโปรแกรมต่างๆ หรืออะไรก็ตาม เราควรศึกษาภาษาอังกฤษก่อนเป็นอย่างแรก จนในที่สุด พี่ศิระก็สามารถทำสองโปรเจ็กต์นั้นได้สำเร็จภายในเวลาเดือนเดียว 

อย่างไรก็ตามการทำงานกับข้อมูลนั้นต้องใช้เวลาอย่างมากเพราะจำนวนข้อมูลมีอยู่มหาศาลซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะทำงานให้เสร็จตามกำหนด

ผมเป็นคนขี้เกียจมาก เวลาที่ต้องทำอะไรถึกๆ

พี่ศิระกล่าวถึงจุดเริ่มต้นสนใจสูตร Excel

พี่ศิระจึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้งานเสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ซึ่งนำมาสู่การศึกษา Excel อย่างลึกซึ้งจนกลายเป็นเซียน Excel ประจำออฟฟิศ

กำเนิด inwExcel

เมื่อมีความรู้อยู่กับตัวมากมาย พี่ศิระก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ Excel เขาสร้างเว็บไซต์สรุปเคล็ดลับการใช้ Excel ทิ้งไว้เพื่อแชร์ความรู้ต่อให้เพื่อนๆ และสรุปความรู้ให้ตัวเองไปด้วยเช่นกัน (ยิ่งแชร์ความรู้ เราก็จะยิ่งเก่งขึ้น) นอกจากเว็บไซต์แล้ว เขาก็สร้างเพจ Facebook และ ช่อง YouTube ขึ้นมาโดยตั้งชื่อว่า “inwExcel” หรือเทพเอ็กเซล ตามที่หลายๆ คนชอบเรียกเขาในที่ทำงาน (ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ThepExcel ภายหลัง)

ช่วงแรกที่ทำเทพเอ็กเซลพี่ศิระไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะวัตถุประสงค์หลักคือการทบทวนความรู้ให้ตนเองเหมือนกับการทำเพจเล่นๆ ทั่วไป แต่พอเวลาผ่านไปก็มีคนมาติดตามเพจมากขึ้นและหลายๆ คนก็มาคอมเม้นขอบคุณสำหรับบทเรียนที่เขานำมาแบ่งปันบ่อยครั้งซึ่งทำให้เขารู้สึกดีมาก (หลายคนได้โปรโมทขึ้นตำแหน่งเพราะความรู้ที่พี่ศิระแชร์)

ในด้านคอนเทนต์ของเทพเอ็กเซลส่วนใหญ่ก็มีทั้งช่วงที่พีคและเงียบเหมือนกับเพจอื่นๆ ทั่วไป แต่ที่สังเกตุได้ง่ายคือบทเรียนพื้นฐานที่ค่อนข้างง่ายและเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้จะมีคนแชร์ค่อนข้างเยอะ ส่วนบทเรียนที่ซับซ้อนก็มีคนแชร์น้อยตามปกติแต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องแบ่งปันอยู่ดี 

เทพแห่ง Excel

พี่ศิระเริ่มทำรายได้จากเทพเอ็กเซลโดยการสอนอบรมในองค์กรต่างๆ แต่ที่สร้างรายได้เกินความคาดหมายคือการทำหนังสือสอนใช้ Excel โดยมีจุดเริ่มต้นคือเขามองว่าหนังสือสอนใช้ Excel ณ เวลานั้นใช้ภาษาค่อนข้างทางการจนมันดูซับซ้อนเกินไปและทำให้เข้าใจยาก เขาจึงอยากทำหนังสือของตัวเองที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย

เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ในการทำนิตยสารการ์ตูนขณะเรียน พี่ศิระจึงกล้าพิมพ์หนังสือ Excel ของตัวเองโดยไม่กลัวขาดทุน และผลลัพธ์ที่ออกมาคือหนังสือ Excel ของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการขายหมดเกลี้ยงจากการพิมพ์ขายทั้งหมด 2 รอบ เรียกได้ว่าความรู้จากการทำนิตยสารในช่วงมหาลัยทำให้เขามีทักษะในการเขียนและออกแบบกราฟิกที่นำมาใช้ในการทำเพจถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน

นอกจากการอบรมในองค์กรและทำหนังสือซึ่งเปลี่ยนมาในรูปแบบ E-book แล้ว การทำคอร์สออนไลน์คืออีกหนึ่งสิ่งที่พี่ศิระนั้นคิดว่าเวิร์คมากเนื่องจากสามารถทำรายได้ในแต่ละเดือนโดยที่เขาไม่ต้องไปนั่งสอนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม พี่ศิระคิดว่ายังไงก็ยังจำเป็นต้องออกไปสอนแบบเจอผู้คนจริงๆ อยู่ดีเพราะต้องการฟีดแบคจริงๆ จากผู้เรียนเพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรการสอนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป 

หลังจากทำงานที่ KBANK มาได้ 9 ปี พี่ศิระก็ตัดสินใจลาออกเนื่องจากเขาต้องการใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น และหันมาเปิดบริษัท เทพเอ็กเซล จำกัด เพื่อโฟกัสกับธุรกิจของเขาอย่างเต็มตัวจนถึงปัจจุบัน

อยากเริ่มใช้Excelต้องเริ่มอย่างไร

สิ่งที่พี่ศิระคิดว่าเราต้องมีอย่างแรกในการทำ Excel คือการกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ได้ก่อน เพราะความรู้ใน Excel นั้นมีไม่สิ้นสุด ถ้าเราเรียนโดยไม่มีเป้าหมาย ทุกอย่างก็จะดูล่องลอยและจับต้องไม่ได้ และเราก็จะไม่เห็นผลลัพธ์ของการกระทำนั้น ดังนั้นเราควรตั้งเป้าหมายเช่น ต้องทำโปรเจคอะไรซักอย่างให้ได้ ซึ่งเราก็จะฝ่าฝันจนได้ความรู้ใหม่ๆ ไปตอบโจทย์เป้าหมายนั้นในที่สุด 

อีกหนึ่งอย่างคืออย่าไปกลัวตัวเลข เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้อย่างแน่นอนในการใช้ Excel ดังนั้นในการใช้ Excel และอย่ามองว่าตัวเลขเป็นแค่ตัวเลข เราควรเข้าใจที่มาที่ไปและความหมายเชิงธุรกิจของตัวเลขเหล่านั้นด้วย แล้วเราจะจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

ความแตกต่างของ PowerBI และ Excel

Power BI คือโปรแกรมที่แยกมาเพื่อการทำ Interactive Dashboard โดยเฉพาะ ถึงแม้ Excel ก็ทำ Dashboard ได้ แต่ Power BI จะมีกราฟในการทำ Visualization หลายแบบมากกว่า นอกจากนั้นระบบการแชร์รายงานของ Power BI นั้นยังปลอดภัยกว่าเนื่องจากสามารถแชร์ผ่านระบบออนไลน์ของ Microsoft ซึ่งสามารถเลือกผู้ใช้ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้ ต่างจากการแชร์ของ Excel นั่นก็คือการก็อปปี้ไฟล์สำเร็จรูปแล้วส่ง

อย่างไรก็ตาม Power BI ก็มีข้อเสียเช่นกันในเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดรายละเอียดตามช่องตารางเหมือนใน Excel ได้ ว่ากันง่ายๆ คือ Power BI มีวัตถุประสงค์ในการทำ Dashboard แต่ Excel สามารถทำได้ทุกอย่างที่มีผลลัพธ์เป็นตาราง

Mindsetที่คนทำเกี่ยวกับดาต้าควรจะมี

“ต้องขี้เกียจ(ทำงานถึก)ครับ” หรือถ้าพูดให้ถูกคือเราต้องหาวิธีที่ดีกว่าในการทำงานเสมอ สำหรับพี่ศิระ การทำงานกับข้อมูลที่มหาศาลนั้นต้องใช้เวลาอย่างมาก ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือถามตัวเองว่ามีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะเราควรมี mindset ที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ จะได้ไม่จมอยู่กับการทำงานแบบเดิมๆ ที่มีประสิทธิผลน้อยกว่า

เป้าหมายของเทพ Excel

พี่ศิระมีเป้าหมายในอนาคตที่จะทำเครื่องมือสอน Excel ที่เหมาะกับแต่ละคนที่มีพื้นฐานการเรียนไม่เท่ากันเพราะในปัจจุบันเขาแบ่งคอร์สออนไลน์ของตัวเองเป็นระดับ Basic หรือ Advanced อยู่แล้ว แต่มันอาจจะกว้างเกินไปสำหรับบางคนที่เข้าใจบางเรื่องอยู่แล้ว พี่ศิระจึงอยากโฟกัสเรื่องที่ผู้เรียนต้องการที่จะศึกษาจริงๆ และจะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

นอกจากนั้นเขาอยากเพิ่มคอร์สอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น Python ที่สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรม Excel และ Power BI ได้ เนื่องจากเราไม่สามารถยึดติดกับเครื่องมื่อเพียงชิ้นเดียวตลอดไปได้เพราะเทรนด์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางทีคนอาจจะเลิกใช้ Excel หรือ Power BI ในอนาคตก็เป็นได้ เราจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา

ฝากถึงผู้อ่าน

สิ่งที่สำคัญและอย่าไปกลัวมันเด็ดขาดคือ ภาษาอังกฤษ หากเราได้อ่านหรือได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ก็จะสามารถใช้มันได้เอง สื่อต่างๆ อย่างเช่น Youtube เป็นตัวช่วยในการฝึกฝนที่ดี และเราไม่ต้องแคร์เรื่องแกรมม่ามากขนาดนั้นเพราะเราฝึกอังกฤษโดยไม่ได้เอาไปสอบที่ไหน

มากไปกว่านั้นคือการหาความรู้ใหม่ๆ เยอะๆ ว่ากันง่ายๆ คือสนุกกับชีวิต เราควรมองว่าถ้าเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้ว เราจะมีความสามารถมากขึ้นและจะสนุกขึ้น และเราก็จะสามารถรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างแน่นอน

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights