คงมีไม่กี่คนบนโลกที่ออกมาเปิดเผยว่าตัวเอง ‘นั่งส้วม’ นานถึง 50 ชั่วโมง แต่สำหรับไซม่อน กริฟฟิทส์ (Simon Griffiths) มันคือสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อให้เป้าหมายของเขาสำเร็จลุล่วง แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาต้องยอมใช้เวลาอยู่กับโถส้วมถึง 50 ชั่วโมงเพื่อแลกกับเงินทุน?
สองพันล้านคนกับห้องน้ำที่ไม่มีให้ใช้
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นในปี 2012 ที่ออสเตรเลีย เมื่อกริฟฟิทส์และเพื่อนอีก 2 คนได้มีโอกาสทำงานกับองค์กรด้านมนุษยธรรมทั่วโลกแล้วได้รับรู้ถึงปัญหาการขาดแคลนห้องสุขาที่คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก พวกเขาพบว่าประชากรเกือบ 2 พันล้านคนไม่มีห้องน้ำใช้
เมื่อทั้งสามรู้ซึ้งถึงปัญหานี้ พวกเขาจึงต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ปัญหานี้เบาบางลง จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะที่กริฟฟิทส์กำลังเข้าห้องน้ำและกำลังจะใช้กระดาษชำระทำความสะอาดอยู่นั่นเอง เขาก็เกิดไอเดียในการทำกระดาษชำระขายแล้วนำรายได้ไปสร้างห้องน้ำให้แก่พื้นที่ที่ขาดแคลน
Who Gives A Crap
พอกริฟฟิทส์นำไอเดียนี้ไปเสนอกับเพื่อนซี้สองหน่อของเขา ทั้งสามคนก็เห็นพ้องต้องกันและร่วมกันก่อตั้ง Who Gives A Crap บริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนาผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างเช่น กระดาษชำระที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลร้อยเปอร์เซ็นโดยบริษัทจะนำกำไรครึ่งหนึ่งไปบริจาคเพื่อสมทบทุนการสร้างห้องน้ำในที่ที่ขาดแคลน
ผ่านไปเกือบ 2 ปีกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กริฟฟิทส์และผองเพื่อนก็ต้องพยายามหาเงินทุนเพื่อนำมาใช้จ่ายในการผลิตสินค้าปริมาณมากซึ่งเป็นตอนนี้เองที่กริฟฟิทส์เกิดไอเดียสุดครีเอทีฟแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความอดทน เขาตั้งแคมเปญระดมทุนให้ถึง 5 หมื่นเหรียญโดยเขาจะนั่งอยู่บนส้วมแล้วไลฟ์สดและจะไม่ยอมลุกไปไหนจนกว่ายอดบริจาคจะตามเป้า
นั่งส้วม50ชั่วโมงเพื่อ 5 หมื่นดอลล่าร์
ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้เพื่อทำในสิ่งที่เชื่อและจะไม่ยอมลุกไปไหนจนกว่าผมจะทำกระดาษชำระนี่ออกมาให้ได้
เวลาผ่านไปราวๆ 50 ชั่วโมง และแล้วแคมเปญของเขาก็สำเร็จ Who Gives A Crap ได้เงินทุนมา 5 หมื่นเหรียญ (ราว 1.6 ล้านบาท) ตามเป้าและสินค้าล็อตแรกของพวกเขาก็พร้อมที่จะเปิดตัว นอกจากทิชชู่ที่เป็นสินค้าตัวชูโรงแล้ว กริฟฟิทส์และผองเพื่อนก็ยังผลิตสินค้าชนิดอื่นเพิ่มด้วย อย่างเช่น ผ้าเช็ดตัวที่ทำมาจากกระดาษรีไซเคิลและ Dream Cloth กระดาษฟองน้ำที่สามารถล้างแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ผู้นำสุขภัณฑ์รักษ์โลก
เวลาผ่านไป 9 ปี Who Gives A Crap ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาขยายโกดังไปยังประเทศอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นอเมริกา แคนาดาหรืออังกฤษ นอกจากนั้นกริฟฟิทส์และเพื่อนยังหันมาใส่ใจในเรื่องการกำจัดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย
ในปัจจุบัน Who Gives A Crap ได้บริจาคเงินถึง 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราวๆ 260 ล้านบาทให้กับโครงการส่งเสริมสุขอนามัยทั่วโลก มากไปกว่านั้นพวกเขายังได้รับเงินลงทุน 30 ล้านเหรียญหรือเกือบ 1 พันล้านบาทจากบริษัทร่วมลงทุนหลายแห่งอีกด้วย
กริฟฟิทส์กล่าวว่า “ยิ่งบริษัทได้รับการสนับสนุนมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้นเท่านั้น” บริษัทของเขาพยายามเข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุดเพื่อจัดการกับปัญหาที่บางคนอาจจะคิดว่าเรื่องเป็นเรื่องเล็กแต่แท้จริงแล้วมีผลกระทบต่อประชากรจำนวนมาก เราลองคิดเล่นๆ ก็ได้ว่าหากเราไม่มีห้องน้ำจะเป็นเช่นไร
อย่าว่าแต่ไม่มีให้ใช้ในชีวิตที่เหลือเลย แค่ขาดห้องน้ำวันเดียว ชีวิตของผมก็ไม่รู้จะเป็นยังไงแล้ว
อ้างอิง https://cnb.cx/3CkkAlN
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…