วันนี้ Career Fact จะพาทุกคนมาเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของ TRES ร้านมัลติแบรนด์เจ้าของโปรเจกต์ #10cmDiffProject ที่หลายคนรู้จัก กับคุณพราว กล่าวขวัญ รัตนติกุล เจ้าของร้าน TRES
จากงานประจำสู่ธุรกิจส่วนตัว
คุณพราวโตมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจ เธอเลยซึมซับทักษะการต่อรองและบรรยากาศของการพูดคุยกับคนมาตั้งแต่เด็ก เธอตัดสินใจทำอาชีพผู้ตรวจสอบบัญชีตรงตามสายที่จบมา แต่กลับพบว่างานที่ต้องขอความช่วยเหลือเรื่องเอกสารจากคนอื่นอยู่ตลอดไม่ใช่งานที่เธอชอบ เธอจึงตัดสินใจลาออกและเปลี่ยนไปทำงาน Consultant แทน แต่กลายเป็นว่าการได้เข้ามาทำงานนี้ยิ่งตอกย้ำว่าเธอรักงานที่ได้ลงมือทำเองจริง ๆ มากกว่า และทำให้เธอตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำธุรกิจของตัวเองเต็มตัว
ที่มาของ TRES
TRES เริ่มต้นจากตัวคุณพราวและน้องสาวที่มองเห็นช่องว่างทางการตลาดคือ ในเมืองไทยมีร้านขายเสื้อผ้าในอินสตาแกรมเยอะมาก แต่ยังไม่มีเว็บไซต์ขายเสื้อผ้ามัลติแบรนด์เหมือนเว็บไซต์ของต่างประเทศ มีแต่ร้านมัลติแบรนด์แบรนด์ที่มีหน้าร้านอย่างเดียว ทั้งสองเลยตัดสินใจสร้าง TRES มัลติแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นมา
ทั้งสองเห็นว่าตัวเองมีความรู้ด้านการทำธุรกิจ แต่ขาดทักษะการทำกราฟฟิกซึ่งมีความสำคัญมากในการทำธุรกิจออนไลน์ จึงไปชักชวนรุ่นน้องคณะบัญชีฯ มาร่วมทีม และต่อมาก็ได้มีเพื่อนร่วมทีมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีทีมงานทั้งหมดประมาณ 15 คน
พลิกความท้าทายให้กลายเป็นจุดเด่น
ความท้าทายหลักๆ ของ TRES คือ ธรรมชาติลูกค้าคนไทยที่คุ้นเคยและชื่นชอบการซื้อของออนไลน์โดยตรงกับเจ้าของร้าน และไม่ค่อยนิยมการซื้อของผ่านเว็บไซต์ ถึงอย่างนั้น ความท้าทายที่ต้องเผชิญก็ไม่ได้สั่นคลอนเป้าหมายของธุรกิจของคุณพราวและน้องสาวที่อยากสร้างประสบการณ์การซื้อของครบจบในที่เดียวให้กับลูกค้า TRES จึงพลิกความท้าทายให้กลายเป็นโอกาส โดยสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นบนเว็บไซต์ ทั้งคอนเทนต์เเมตช์เสื้อผ้าลุคต่างๆ ที่มีทั้งแบรนด์ดังและแบรนด์เล็กๆ ที่ไม่ได้พื้นที่จากสื่อออนไลน์อื่นๆ และเกิดกระแสไวรัลจากโปรเจกต์ #10cmDiffProject ที่จับนางแบบส่วนสูงต่างกัน 10 เซนติเมตรมาใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน
จุดที่ทำให้ TRES เป็นที่รู้จัก
ต้องบอกก่อนว่าช่วงแรก ๆ TRES ไม่ได้มียอดสั่งซื้อเยอะเหมือนที่วคาดหวังเอาไว้ จนทำให้คุณพราวและน้องสาวรู้สึกท้อจนถึงขั้นมีความคิดที่จะเปลี่ยนแผนธุรกิจ แต่การพยายามเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจที่ทำให้ TRES เป็นที่รู้จักทั้งในตลาดออนไลน์และหน้าร้านได้ในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระแสจากคอนเทนต์ #10cmDiffProject และการตัดสินใจไปออกงาน Zaap On Sale เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากสัมผัสกับสินค้าโดยตรงและอยากได้บรรยากาศการไปเลือกซื้อของที่ร้าน
นำความต้องการของลูกค้ามาเป็นคอนเทนต์
TRES ตอบคำถามของลูกค้าอย่างเป็นกันเองเสมอ และยังนำมันมาต่อยอดเป็นคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใครด้วย ตัวอย่างเช่น ลูกค้าปรึกษาว่าเป็นคนที่มีสะโพกใหญ่ จะใส่เสื้อผ้าออกมาสวยเหมือนนางแบบไหม TRES ก็ให้คำปรึกษาและแนะนำเสื้อผ้าให้ลูกค้า และแล้วต่อยอดด้วยคอนเทนต์เสื้อผ้าสำหรับคนสะโพกใหญ่ เมื่อลูกค้าถามหาเสื้อผ้าสำหรับการไปเที่ยวในฤดูหนาว TRES ก็หยิบมาทำเป็นคอนเทนต์เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศแบบต่างๆ
ฝ่ากระแสโควิด
โควิดสองระลอกแรกไม่ได้สร้างผลกระทบกับร้านมาก เพราะหลังช่วงที่ต้องปิดร้าน ลูกค้าก็ยัง
เหนียวแน่นเหมือนเดิม แต่โควิดที่ส่งผลกระทบจริงๆ คือระลอกที่สามที่ส่งผลให้หน้าร้านเงียบมาก TRES จึงต้องสู้ต่อด้วยการพึ่งพารายได้จากออนไลน์แบบเต็มๆ โดยได้เปลี่ยนไปไลฟ์ขายเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์แทน
อนาคตของ TRES
ปัจจุบัน ร้านได้มีการขยายพื้นที่เพื่อรวมร้าน 2 สาขาเข้าด้วยกัน เพื่อให้สินค้าอยู่จบครบทุกแบรนด์ในที่เดียว และในอนาคตมีแผนทำให้ TRES เป็น Community Space สำหรับคนมาแฮงเอาท์ พูดคุย นั่งชิลได้
จุดเด่นของ TRES
- รู้ใจลูกค้า: TRES ปรับตัวเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ ไม่ได้ทำคอนเทนต์แบบเดิมๆ ตลอด เพราะความต้องการหรือเทรนด์เป็นสิ่งที่เปลี่ยนเร็วทุกวัน
- ใส่ใจลูกค้า: พนักงานหน้าร้านและแอดมินบนเว็บไซต์ต้องเอาใจใส่ลูกค้า ตอบคำถามและแนะนำลูกค้าได้ว่าสัดส่วนของลูกค้าเหมาะกับเสื้อผ้าแบบไหน นอกจากนี้ แพคเกจจิ้งของ TRES ก็มีการใส่กิมมิคที่แสดงถึงความใส่ใจลูกค้าทุกคน เช่น สติ๊กเกอร์น่ารักๆ
- ใส่ใจเจ้าของแบรนด์: TRES เอาใจใส่แบรนด์ต่างๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ น่ารักๆ ที่ช่วยส่งเสริมการขาย หรือการหมั่นสอบถามฟีดแบกกับทางแบรนด์ และยังเข้าไปติดต่อแบรนด์ที่ถูกใจเสื้อผ้าด้วยตัวเองด้วย
Lesson to learn
- ช่วงแรกของการเริ่มทำธุรกิจอย่าเพิ่งลงเงินทุนไปหมดหน้าตัก เพราะจะได้ไม่เจ็บตัวหนัก
- การทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำธุรกิจช่วยให้ค้นพบสิ่งที่เราชอบได้ง่ายขึ้น และยังได้เรียนรู้จากบริษัทที่มีความมั่นคง
- เลือกที่ตั้งร้านที่กลุ่มลูกค้ามาได้สะดวก และถูกใจเรา
- ฝึกพนักงานให้ละเอียด ในช่วงแรกอาจลงไปทำหน้าที่ทุกอย่างเอง เพื่อให้ควบคุมร้านได้ดีที่สุด
- ตกแต่งหน้าร้านให้สอดคล้องกับตัวแบรนด์บนแพลตฟอร์มออนไลน์
- จัดระบบทุกอย่างให้ดีเพื่อช่วยลดความวุ่นวาย ทั้งระบบ QoS สต็อกสินค้า เติมและเบิกของ เพื่อการตรวจสอบปริมาณของและยอดขายได้อย่างเป็นระบบ TRES เองก็ได้ออกแบบตัวระบบให้เข้ากับการใช้งานของแบรนด์มากที่สุด เพราะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นการลงมือสร้างครั้งเดียวที่คุ้มไปในระยะยาว
สุดท้ายนี้ 2 คีย์เวิร์ดที่คุณพราวได้ทิ้งท้ายให้คนที่อยากสร้างแบรนด์ออนไลน์ของตัวเองคือ
อย่ายอมแพ้และลงมือทำ
ถ้ารู้สึกท้อให้ฮึดสู้ พยายามหาทางออกโดยใช้ระบบต่างๆ เข้ามาช่วย และเมื่อคิดว่าอยากทำอะไร ก็ให้เริ่มเลย ถ้าชอบและมั่นใจก็ให้ลองเลย แต่อย่าเล่นใหญ่ ค่อยๆ ลอง ค่อยๆ เรียนรู้ความต้องการของลูกค้าไปเรื่อยๆ
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…