ทำไม Pandora ทุกชิ้นบนโลกถึง Made in Thailand?
หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อแพนดอร่า (Pandora) แบรนด์เครื่องประดับซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย และคิดว่าแพนดอร่าเป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาหรือออสเตรเลียด้วยตลาดที่ใหญ่ในประเทศนั้นๆ แต่ความจริงแล้วแบรนด์แพนดอร่านั้นเริ่มต้นขึ้นในประเทศเดนมาร์กและได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของแพนดอร่า
แพนดอร่าเริ่มต้นขึ้นจากสามีภรรยาชาวเดนมาร์กคู่หนึ่งคือเพียร์และวินนี อีนีโวลด์เซ่น (Per and Winnie Enevoldsen) ทั้งสองเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วก็ได้พบแหล่งจิวเวลรี่และช่างทำเครื่องประดับมากด้วยฝีมือและความชำนาญ
หลังจากเดินทางกลับประเทศเดนมาร์ก เพียร์ก็มีความคิดริเริ่มสร้างธุรกิจครอบครัวขึ้นมาร่วมกับวินนี่ ทั้งคู่จึงเปิดขายร้านขายเครื่องประดับเล็กๆ ในโคเปนเฮเกน ในปี 1979 ช่วงแรกๆ เพียร์และวินนี่เดินทางไป-กลับประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง เพราะพวกเขาต้องการคัดสรรจิวเวลรี่ที่จะนำเข้ามาทำเครื่องประดับด้วยตัวเอง ผ่านไปได้ไม่กี่ปียอดขายก็พุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงเริ่มผันตัวเป็นผู้ค้าส่งให้กับลูกค้ารายใหญ่ในเดนมาร์ก
ในปี 1987 หลังจากที่เพียร์และวินนี่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ค้าส่งเครื่องประดับมาสักระยะ พวกเขาก็เลิกทำในฝั่งค้าปลีก แล้วย้ายบริษัทไปตั้งในที่ที่ใหญ่กว่าเดิม ในขณะเดียวกันบริษัทก็ได้จ้างนักออกแบบประจำบริษัทเป็นคนแรก และแพนดอร่าก็เริ่มให้ความสำคัญกับการผลิตเครื่องประดับอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น
10 ปีหลังจากที่เพียร์และวินนีเริ่มขายเครื่องประดับเป็นครั้งแรก ฝันของพวกเขาก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ประเทศไทยและเปิดโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างจริงจัง แม้ว่าในตอนแรกบริษัทของพวกเขาที่ไทยจะเป็นเพียงแค่ห้องแถวคูหาเดียวและมีพนักงานเพียง 10 คนก็ตาม ส่วนเหตุผลที่ทั้งคู่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพียงประเทศเดียวนั่นก็เพราะแรงบรรดาลใจของทั้งคู่เริ่มต้นจากที่นี่ และประเทศไทยก็มีช่างฝีมือดีๆ มากมาย พร้อมทั้งสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างโรงงานและการขนส่ง
ถึงแม้ว่าแพนดอร่าทุกชิ้นจะผลิตขึ้นที่ประเทศไทย แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมราคาแพนดอร่าในประเทศไทยจึงแพงกว่าประเทศอื่นค่อนข้างมาก นั่นเป็นเพราะแพนดอร่าไม่ใช่ผู้จัดจำหน่ายโดยตรง แต่สินค้าจะต้องถูกส่งออกก่อนแล้วจึงนำเข้าผ่านผู้จัดจำหน่ายอีกทีทำให้ต้องบวกค่าภาษีเพิ่มเติมหลายรอบ
แพนดอร่าสู่เวทีโลก
ในปี 2000 แพนดอร่าเปิดตัว “ชาร์ม (Charm)” เป็นครั้งแรก ชาร์มมีลักษณะคล้ายกับลูกปัดที่มาสามารถนำมาร้อยสร้อยข้อมือได้ ทำให้สร้อยข้อมือแต่ละเส้นมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามที่ผู้สวมใส่ต้องการ ซึ่งได้กลายเป็นจุดเด่นของแพนดอร่ามาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่กระแสตอบรับต่อชาร์มดีกว่าที่คาดคิดไว้ แพนดอร่าก็เริ่มขยายตลาดออกไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาในปี 2003 เยอรมันและออสเตรเลียในปี 2004
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแพนดอร่าได้ขยายตลาดออกไปอย่างรวดเร็ว เริ่มจากแถบสแกนดิเนเวียไปสู่ตลาดนานาชาติ ในปัจจุบันแพนดอร่ามีสาขามากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ขับเคลื่อนโดยผู้จัดจำหน่ายในแต่ละประเทศและกำลังการผลิตที่มากในประเทศไทย
ในปี 2005 แพนดอร่าได้เปิดโรงงานขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี (Gemopolis) ในกรุงเทพฯ ต่อมาในปี 2017 แพนดอร่าก็ได้เพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งด้วยความต้องการซื้อที่มากขึ้นทุกปี โดยสร้างโรงงานเพิ่มที่ลำพูน และล่าสุดในปี 2018 แพนดอร่าก็ได้เปิดโรงงานแห่งที่ 3 เพิ่มเติมในอาคาร Triple A นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี
เพียร์ผู้เป็นช่างฝีมือที่มุ่งเน้นความปราณีตของงานไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเขาเองนั้นจะกลายเป็นคนสำคัญในการปฏิวัติแบรน์แพนดอร่าไปสู่วงการเครื่องประดับระดับโลก เขาสนใจแค่ว่าทำยังไงให้สินค้าทุกชิ้นมีคุณภาพเท่ากันทั้งหมด เขาควบคุมดูแลโรงงานและพนักงานกว่า 1,400 คนด้วยตัวเอง และอาจเป็นเพราะความปราณีตของเขานี้เองที่ทำให้แพนดอร่าได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ขายกิจการ
ในปี 2008 เพียร์และวินนี่ตัดสินใจขายกิจการแพนดอร่าให้กับ Axcel และในปี 2010 แพนดอร่าก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเดนมาร์ก (NASDAQ OMX)
ความเป็นแพนดอร่า
เครื่องประดับแต่ละชิ้นของแพนดอร่าเป็นเครื่องประดับทำมือ (Handmade) ทั้งหมด และกว่าจะเสร็จออกมา 1 ชิ้นจะต้องผ่านมือช่างฝีมือมากกว่า 30 คนเพื่อให้ได้งานที่ปราณีตที่สุด
แพนดอร่าวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Positioning) ของแบรนด์เป็นเครื่องประดับหรูหราที่คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ (Affordable Luxury) โดยมุ่งเน้นไปที่การผลิตเครื่องประดับที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล การโตขึ้นของกลุ่มชนชั้นกลางทั่วโลกก็เอื้อกับการวางตำแหน่งนี้ของแพนดอร่า เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องการแสดงออกถึงสถานะทางสังคม การสวมใส่เครื่องประดับจึงมีส่วนสำคัญมากในการส่งเสริมภาพลักษณ์ และแพนดอร่าก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีมากๆ สำหรับสาวๆ
แพนดอร่าในปัจจุบัน
ในปัจจุบันแพนดอร่าเป็นบริษัทจิวเวลรี่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก (ในด้านยอดขาย) รองจาก Cartier และ Tiffany&Co. แพนดอร่ามีสาขาอยู่ในร้อยกว่าประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 26,000 คน ซึ่งพนักงานเกินกว่าครึ่งทำงานอยู่ในประเทศไทย
ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดทำให้ปีที่แล้วกลายเป็นปีที่ยากสำหรับหลายบริษัท แพนดอร่าเองก็ได้รับผลกระทบจนปิดสาขาไปกว่า 90% แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำยอดขายออนไลน์ได้มากอย่างไม่น่าเชื่อจนติดอันดับบริษัทที่มีผลประกอบการดีที่สุดในโลก
แม้ว่าปัจจุบันแพนดอร่าจะไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของสองสามีภรรยาเพียร์และวินนี อีนีโวลด์เซ่นอีกต่อไป แต่พวกเขาทั้งคู่ก็เป็นผู้ให้กำเนิดแพนดอร่าจากความฝันเล็กๆ ในร้านเล็กๆ ในโคเปนเฮเกน จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกในทุกวันนี้
อ้างอิง
https://go.pandora.net/3i5jKAy
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อพูดถึง Personal…