Nas Daily: ลาออกจากงานเงินเดือนหลักล้านสู่ Vlogger สายเที่ยวที่ลงคลิปติดกัน 1,000 วัน

หลายคนน่าจะเคยคุ้นหูกับเพจ Facebook ที่มีชื่อ Nas Daily กันมาบ้าง เพราะเจ้าของเพจคนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชื่อดังที่เดินทางไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวคนนี้มีผู้ติดตามถึง 20 ล้านคนที่พร้อมจะฟังสิ่งที่เขาพูดตลอดเวลากันล่ะ? 

จุดเริ่มต้น

นูเซียร์ ยาสซิน (Nuseir Yassin) เกิดเมื่อปี 1992 ที่เมืองอาร์ราบา ประเทศอิสราเอล เขาเป็นลูกคนที่สองจากทั้งหมดสี่คนในครอบครัวอาหรับมุสลิมและมีคุณแม่ทำอาชีพเป็นครู ส่วนคุณพ่อเป็นนักจิตวิทยา โดยก่อนที่จะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก ยาสซินเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อายและไม่กล้าแสดงออก 

เมื่ออายุ 19 ปี ด้วยโอกาสในการก้าวหน้าที่อิสราเอลนั้นมีน้อยเหลือเกิน นูเซียร์จึงตั้งเป้าที่จะไปเรียนเมืองนอก เขาสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการบินที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้สำเร็จแถมยังได้ทุนการศึกษาอีกด้วย โดยในระหว่างเรียน เขามีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะกอบโกยความรู้ให้ได้มากที่สุด 

ออกจากงานไปเดินทางรอบโลก

พอเรียนจบ นูเซียร์ก็ย้ายไปอยู่นิวยอร์กเพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างจริงจัง เขาได้งานโปรแกรมเมอร์ที่บริษัทลูกของ PayPal อย่าง Venmo ซึ่งเขาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหนึ่งแสนเหรียญต่อปี

คนอื่นคงมองว่าชีวิตเขาช่างลงตัวสุดๆ ทั้งในด้านการศึกษา อาชีพ และรายได้ แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น

นูเซียร์เบื่อชีวิตที่สุดแสนจะซ้ำซาก เขารู้สึกเสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ กับการทำงานวนไปวนมาอยู่บนโต๊ะในออฟฟิศ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่างานของเขาไม่ควรได้เงินเดือนเยอะขนาดนี้และทำให้เขาไม่รู้สึกพอใจกับการทำงาน (อย่างนี้ก็มีด้วย) นั่นจึงทำให้เขาเกิดความคิดว่าอยากจะไปเที่ยวรอบโลกเผื่ออะไรมันจะดีขึ้น

นูเซียร์ใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งในการเก็บเงินให้ได้ 6 หมื่นเหรียญ หลังจากนั้นเขาก็ลาออกจากงานในปี 2016 พร้อมกับซื้อกล้องและตั๋วเครื่องบินเพื่อเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวรอบโลกอย่างเต็มตัว

Nas Daily

ในระหว่างการเดินทาง นูเซียร์มีความตั้งใจว่าจะบันทึกประสบการณ์การเที่ยวรอบโลกของตัวเองด้วย จึงนำไปสู่การสร้างเพจ Facebook ที่มีชื่อว่า Nas Daily ขึ้นมาและตั้งเป้าไว้ว่าจะลงคลิปวิดีโอความยาว 1 นาทีติดต่อกัน 1000 วัน โดยเริ่มต้นจากเคนยาเป็นประเทศแรก

หลังจากลงคลิปในเพจได้ไม่นาน บริษัทสื่อของรัสเซียที่ตั้งอยู่ในเมืองไนโรบี ประเทศเคนย่า ก็มาพบเห็นเข้า แล้วเสนอเงินค่าจ้างให้นูเซียร์มาเป็นฟรีแลนซ์ทำคอนเทนต์ลงในเพจ Facebook แก่สื่อนั้น โดยเขาได้รับค่าจ้าง 3,000 เหรียญต่อเดือน นั่นจึงทำให้แผนการท่องเที่ยวของเขาดำเนินไปอย่างไม่ขัดสน และทำให้เขาได้ฐานผู้ชมมากขึ้นอีกด้วย

เข้าถึงคนทั่วโลก

นูเซียร์ได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายในระหว่างการเดินทางไป 64 ทั่วโลก เขาบอกในเว็บไซต์ของเขาว่าในวันที่ 230 เขาเกือบที่จะล้มเลิกในการเดินทางครั้งนี้ แต่ก็โชคดีที่มันไม่เกิดขึ้น จนกระทั่งเดินทางมาถึงวันที่ 400 เพจของเขาก็มีผู้ติดตาม 1 ล้านคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้หญิงที่มีชื่อว่า อลีน ทาเมียร์ (Alyne Tamir) ผู้ที่กลายมาเป็นคนรักของเขาในภายหลัง นอกจากนั้น นูเซียร์ยังได้พบกับ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊คที่ช่วยปรับอัลกอริทึ่มให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นคอนเทนต์ของเขาอีกด้วย

เพจ Nas Daily ค่อยๆ เติบโตขึ้นจนกระทั่งมียอดผู้ติดตามถึง 8 ล้านบัญชีในเดือนกันยายนปี 2018 และเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านบัญชีในอีก 2 เดือนถัดมา นับเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างมากสำหรับนูเซียร์กับเพจที่มีผู้ติดตามหลัก 10 ล้านคนทั่วโลกด้วยระยะเวลาเพียง 2 ปี

Mission Complete

และแล้วการเดินทางของนูเซียร์ก็จบลงในวันที่ 5 มกราคม ปี 2019 เขาบรรลุภารกิจคลิปท่องเที่ยวรอบโลก 1000 วันไปอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตามนูเซียร์ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เขาเลือกที่จะเผยแพร่ความรู้และเทคนิคจากประสบการณ์ตลอดการเดินทางของเขาให้แก่ผู้อื่น จึงนำไปสู่การก่อตั้งโรงเรียนฝึกสอนวิดีโอครีเอเตอร์ที่มีชื่อว่า Nas Academy และสตูดิโอสำหรับการถ่ายวิดีโออย่าง Nas Studio นอกจากนั้นเขายังเขียนหนังสือบันทึกการเดินทางของตัวเองที่มีชื่อว่า Around the world in 60 seconds และทำรายการพอดแคสต์อีกด้วย

สิ่งที่นูเซียร์คิดว่าทำให้เขาประสบความสำเร็จคือคอนเซปต์ในการเล่าเรื่องและแนวทางการสื่อสารที่ไม่เหมือนใคร เขาสื่อสารเรื่องราวของผู้คนให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันจริงๆ ด้วยการทำวิดีโอเพียงหนึ่งนาทีพร้อมปิดท้ายคลิปด้วยแท็กไลน์

That’s one minute, see you tomorrow!

Nas Daily

โดยเขากล่าวว่า “เราทุกคนต่างมีชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอด แต่ถึงยุ่งแค่ไหนเราก็พอมีเวลาว่างอย่างน้อยสัก 1 นาทีเช่นกัน” 

อ้างอิง

https://bit.ly/3uLcFef

https://bit.ly/3mmpVSK

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights