‘กันพลา’ โมเดลกันดั้มพลาสติกขวัญใจนักสะสม
‘ทามาก็อตจิ’ สัตว์เลี้ยงเสมือนจริงของเล่นยอดฮิตในยุค 90
หรือฟิกเกอร์จากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดัง
ของเล่นที่เราคุ้นเคยเหล่านี้ผลิตโดย ‘Bandai’ บริษัทของเล่นสัญชาติญี่ปุ่นที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลต่อปี แต่รู้หรือไม่ว่าผู้ก่อตั้งบริษัทนี้คืออดีตทหารผ่านศึกที่ไม่จบมหาลัย!
วันนี้ Career Fact จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ ‘นาโอะฮารุ ยามาชินะ’ (Naoharu Yamashina) ชายผู้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสหกรรมของเล่นในญี่ปุ่น
จากทหารผ่านศึกสู่พ่อค้าขายของเล่น
นาโอะฮารุ ยามาชินะ (Naoharu Yamashina) เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวยามาชินะเจ้าของธุรกิจค้าข้าวในเมืองคานะซาว่า ประเทศญี่ปุ่น เขาเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายด้านธุรกิจก่อนจะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเพื่อสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสูญเสียการมองเห็นในตาด้านขวาจากการถูกสะเก็ดระเบิดกระเด็นเข้าที่ใบหน้า
หลังจากนั้นในปี 1945 นาโอะฮารุได้เข้าทำงานในบริษัทขายส่งผ้าของพี่เขยในจังหวัดคานะซาว่า แต่ถัดมาในปี 1947 เขาถูกส่งไปลองขายของเล่นที่โตเกียวเพราะทางบริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจของเล่นมีศักยภาพสูงที่จะเติบโต เนื่องจากคนในประเทศเริ่มมีเงินพอที่จะซื้อของเล่นให้ลูกหลานและยังมีเด็กเกิดใหม่จำนวนมาก
กำเนิด Bandai
แม้ว่าตอนเริ่มทำธุรกิจของเล่นนาโอะฮารุจะไม่มีทั้งเงินทุนและเส้นสายในวงการผู้ผลิตของเล่นแต่ด้วยความพยายามของเขาและภรรยาทำให้เขาสามารถเริ่มทำธุรกิจของเล่นเล็กๆ ได้ หลังจากนั้นในปี 1950 นาโอะฮารุตัดสินใจแยกตัวจากบริษัทของพี่เขยและเปลี่ยนชื่อบริษัทของเล่นของเขาเป็น ‘Bandai’ ซึ่งมีความหมายว่าสิ่งที่คงอยู่ชั่วนิรันด์ในภาษาจีนและภายในปีเดียวกันนั้น Bandai ได้ผลิต ‘The Rhythm Ball’ ลูกบอลชายหาดที่มีกระดิ่งอยู่ข้างในเพื่อสร้างสินค้าให้มีความแตกต่างจากบริษัทของส่งของเล่นเจ้าอื่น แต่ด้วยคุณภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของสินค้าบางชนิดทำให้ในช่วงแรก Bandai ทำยอดขายได้แค่พอคืนทุนเท่านั้น
หลังจากที่ Bandai สามารถแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพสินค้าได้แล้วนั้นทางบริษัทจึงเริ่มส่งออกของเล่นที่ราคาไม่แพง เช่น รถและเครื่องบินของเล่นไปขายที่ต่างประเทศและได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นสินค้า ‘ผลิตในญี่ปุ่น’ ที่บุกตลาดสหรัฐอเมริกา ในช่วงนี้เองที่สถานการณ์ของ Bandai เริ่มดีขึ้นและทางนาโอะฮารุก็หันกลับมาสนใจตีตลาดญี่ปุ่นอีกครั้ง
กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย
เพื่อกระตุ้นยอดขายของ Bandai นาโอะฮารุวางแผนซื้อลิขสิทธิ์ของการ์ตูนและละครชุดของญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมเพื่อนำมาผลิตเป็นของเล่นและฟิกเกอร์ โดยการ์ตูนเรื่องแรกที่ทางบริษัทนำมาผลิตเป็นสินค้าคือเรื่อง ‘เจ้าหนูปรมาณู’ (Astro Boy) และด้วยแผนธุรกิจใหม่ของนาโอะฮารุนั้นทำให้ Bandai สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลโดยเฉพาะหลังยุค 80 ที่บริษัทเริ่มผลิต ‘Gunpla’ โมเดลพลาสติกจากเรื่องกั้นดั้มและของเล่นจากเรื่องขบวนการ 5 สี (Power Rangers) ซึ่งเป็นสินค้าขายดีในประเทศสหรัฐอเมริกา
Bandai ในปัจจุบัน
แม้ว่านาโอะฮารุจะเสียชีวิตลงในปี 1997 ด้วยอายุ 79 ปี แต่เขาได้วางรากฐานที่มั่นคงให้กับบริษัท Bandai ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Bandai Namco หลังจากควบรวมกิจการกับ Namco บริษัทผลิตวิดีโอเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ปัจจุบันบริษัท Bandai Namco มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึงกว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 4.9 แสนล้านบาทไทย
อ้างอิง