สุริพงศ์ ตันติยานนท์: ผู้จัดการของ Visa กับแรงขับเคลื่อนความสุขในทุกบทบาทหน้าที่

จากความฝันการเป็นสถาปนิกสู่นักเรียนรัฐศาสตร์ จากนักการตลาดเอเจนซี่สู่ผู้ก้าวเข้ามาอยู่ในแวดวงธนาคาร จากอาจารย์มหาวิทยาลัยสู่นักเขียนที่มีผู้ติดตามกว่าหนึ่งแสนคน อะไรกันเป็นแรงขับเคลื่อนความสุขในทุกบทบาทหน้าที่ของเขาคนนี้? ติดตามได้ที่นี่

วันนี้ Career Fact ขอนำเสนอเรื่องราวของพี่ไมค์ สุริพงษ์ ตันติยานนท์ Country Manager ของ Visa ประเทศไทย และเจ้าของเพจ ‘Pete’s Philosophy‘ ปรัชญาของนายพีท

อยากเข้าสถาปัตย์แต่หวยออกที่รัฐศาสตร์

พี่ไมค์ สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ใฝ่ฝันอยากเติบโตมาเป็นสถาปนิก เขาชอบวาดรูป รูปที่เขาชอบวาดคือทัศนียภาพของตึกระฟ้าและรูปแบบของตึกต่างๆ ตามจินตนาการของเขา แต่เขาเองก็ไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่ง ทำให้เขาตั้งใจอ่านหนังสือเป็นอย่างมากเพื่อเตรียมตัวสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ในสมัยนั้นการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยจะผ่านระบบเอ็นทรานซ์ คือผู้สมัครเลือกได้ทั้งหมด 5 อันดับ เรียงตามความสนใจและจะสอบได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

“พี่เลือกทุกอันดับเป็นคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์หมด เหลืออันดับ 3 เป็นคณะรัฐศาสตร์ จะได้ทดสอบว่าที่ผมอ่านหนังสือมามันเวิร์คหรือไม่เวิร์ค” พี่ไมค์กล่าว

เขาเลือกให้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็น 2 อันดับแรก และเลือกคณะรัฐศาสตร์เป็นอันดับ 3 ซึ่งเขาเองก็มองว่าเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่เขาอยากเข้าศึกษาต่อ และเป็นการ Play Safe ในการสมัครให้มีตัวเลือกที่เขาจะพึงพอใจ สุดท้ายหวยดันออกที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแม้จะไม่ใช่เป้าหมายอันดับหนึ่ง แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความชอบของหนอนหนังสืออย่างเขา ซึ่งการเรียนในแขนงนี้ได้กลายมาเป็นแรงบรรดาลใจให้เขาเริ่มเขียนบทความจนกลายมาเป็นงานอดิเรกอีกด้วย

จุดหักเห

“ผมคุยกับพี่สาวตลอดว่าเขาทำงานอะไร งานเขามันสนุกยังไง แล้วรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันน่าสนุก มันได้คุยกับคนใหม่ๆ ได้ไปเห็นเบื้องหลัง เลยรู้ว่ามันใช่ ผมน่าจะชอบแบบนี้”

ในช่วงวัยเรียน เขาพูดคุยกับพี่สาวเป็นประจำจึงได้ฟังเรื่องราวของการทำงานของพี่สาวอยู่บ่อยครั้ง พี่สาวของพี่ไมค์ทำงานแผนก Product Management หรือการบริหารผลิตภัณฑ์ เธอมักเล่าให้ฟังถึงกระบวนการทั้งหมดของการทำงาน ตั้งแต่การเริ่มต้นคิดค้นไอเดียจนการผลิตถึงมือผู้บริโภค พี่ไมค์เองก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฟัง เขาเริ่มสนใจงานด้านนี้และต้องการเข้าใจการทำธุรกิจ เขาวางแผนชีวิตหลังเรียนจบปริญญาตรีคือการไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ

“ผมเกลียดมากไอพวกที่จบรัฐศาสตร์แล้วไปต่อ MBA พวกคุณเนี่ยเสียของ อุตส่าห์เรียนมาแล้วทั้งที ทำไมไม่ไปทำประโยชน์ให้สังคมดีขึ้น” – คำพูดที่อาจารย์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้กับพี่ไมค์และเพื่อนร่วมชั้น

พี่ไมค์เชื่อว่าความรู้ที่ได้จากคณะรัฐศาสตร์สามารถเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจได้ เขาจึงตอบกลับไปว่า

“ผมคิดว่ามันจะไม่ดีกว่าหรอ ถ้าเกิดว่าไปเรียน MBA แล้วกลับมาเป็นนักธุรกิจที่เข้าใจสังคม การทำธุรกิจมันจะไม่ใช่แค่เรื่องกำไร แต่มันจะได้คืนประโยชน์สู่สังคมมากขึ้นด้วย”

เขาเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถนำสิ่งที่เล่าเรียนจากคณะรัฐศาสตร์มาลิงค์กับธุรกิจเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคมได้จริงๆ เมื่อเรียนจบเขาจึงเดินทางไปเรียนต่อ MBA ที่มหาวิทยาลัย Western Illinois ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่ตั้งใจไว้

เริ่มต้นอาชีพการงาน

เมื่อพี่ไมค์เรียนจบ MBA เขาได้มีโอกาสเข้าร่วมงานกับบริษัท Lintas เอเจนซี่ชื่อดังของประเทศในตำแหน่ง Account Executive (AE) การทำงานกับ Lintas ทำให้เขาได้คลุกคลีกับลูกค้าจากหลายหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคไปจนถึงธุรกิจโรงแรมรวมถึงสถาบันการเงินอีกด้วยซึ่งก็เปิดโลกทัศน์ของเขาอย่างมาก จากตอนแรกที่คิดว่าการตลาดจำเป็นแค่ธุรกิจ FMCG หรือสินค้าที่จำหน่ายเร็วต้นทุนต่ำ เพียงแต่อย่างเดียว

หลังจากทำงานกับ Lintas มาได้ 2 ปี เขายังคงมีเป้าหมายที่อยากจะทำงานในฝั่งของลูกค้า ซึ่งตอนนั้นเอง เขาก็ได้รับการชักชวนให้ไปร่วมทำงานกับบริษัทให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปปรึกษากับเจ้านายถึงโอกาสในการย้ายงาน แต่ก็ถูกเจ้านายห้ามเอาไว้ เจ้านายถามเขาว่า “เธออยากทำผลิตภัณฑ์จริงๆ ใช่ไหม งั้นเธอไปคุยเพื่อนฉันก่อนที่ซิตี้แบงก์” นับเป็นบทสนทนาที่ได้เปลี่ยนชีวิต เข้าสู่บทบาทใหม่ เขาเริ่มต้นอาชีพสถาบันการเงินได้รับมอบหมายให้ดูแลผลิตภัณฑ์ ในแผนกบัตรเครดิตของธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย

จากนักการตลาดสู่นักวิชาการ

พี่ไมค์เริ่มต้นทำงานที่ธนาคารซิตี้แบงก์ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ เขาต้องกลายมาเป็นหัวหน้าให้กับคนอายุรุ่นเดียวกัน วิธีการทำงานของเขาคือการให้ความเคารพผู้อื่นก่อนเสมอ เขาเชื่อว่า “พอผมเคารพกัน ทุกคนจะมีไอเดียดีๆ อยู่เสมอ ซึ่งมันจะโชว์ออกมาเอง แล้วการทำงานร่วมกันจะกลายเป็นทีมมากขึ้น”

หลังจากพี่ไมค์ทำงานที่ธนาคารซิตี้แบงก์นานร่วม 8 ปี จนได้รับตำแหน่ง Country Marketing Director เขาได้รับการชักชวนให้ไปทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB จนในที่สุดก็ได้รับตำแหน่ง Executive Vice President นับเป็นการก้าวกระโดดหน้าที่การงานครั้งใหญ่ของเขา ขณะเดียวกัน เขาก็พึ่งจะเริ่มเส้นทางวิชาการหลังได้ตอบรับเป็นอาจารย์พิเศษสำหรับหลักสูตร BBA ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

การสอนนอกจากจะทำให้เขาได้แชร์ประสบการณ์ผ่านการทำงานในสายการตลาด ยังทำให้เขาได้รีเฟรซตัวเองผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเด็กรุ่นใหม่ด้วย และเป็นข้อพิสูจน์ที่เขาเคยบอกกับอาจารย์ที่เห็นต่างกับเขาไว้สมัยเรียน ว่าการเข้าใจสังคมจากความรู้รัฐศาสตร์ ก็สามารถที่จะนำความรู้จากธุรกิจมาถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอนาคตของสังคมได้

Pete’s Philosophy

การเติบโตในหน้าที่การงานของเขาบวกกับประสบการณ์จากการเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ก็ทำให้มักมีคนมาปรึกษาเรื่องชีวิตและเรื่องงานกับพี่ไมค์อยู่บ่อยครั้ง เขาจึงเกิดเป็นไอเดียการทำเพจนำเสนอเรื่องปรัชญาชีวิตการทำงานผ่านการวาดรูปและการเขียน ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นงานอดิเรกที่เขารักตั้งแต่ครั้งยังเด็กแล้ว

พี่ไมค์ใช้เวลาคิดชื่อเพจอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจสร้างคาแรคเตอร์ที่ชื่อว่า “พีท” และตั้งชื่อเพจตามตัวการ์ตูนนั้นว่า ‘Pete’s Philosophy‘ แปลได้ว่า ปรัชญาของพีท พี่ไมค์กลั่นกรองเรื่องปรัชญาชีวิตของเขาออกมาเป็นบทความสั้นๆ และใช้รูปภาพ “พีท” ที่เขาวาดขึ้นเองนำเสนอบทความ โดย “พีท” เปรียบเสมือนตัวแทนความคิดของคนวัยทำงานที่ต้องการสร้างความสำเร็จบนพื้นฐานแห่งความสุข และสิ่งนี้เองทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดตาม Pete’s Philosophy กว่าหนึ่งแสนคนบน Facebook

“จนถึงวันนี้ พีทมันก็ยังเป็นคนเดิม เป็นตัวแทนของคนทำงานที่แสวงหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในทุกวัน”

Always Delivering Beyond Expectation

หลายคนอาจจะมองว่าพี่ไมค์นั้นโชคดีที่มีแต่คนหยิบยื่นโอกาสให้ แต่ความจริงแล้ว

โอกาสจะไม่ถูกยื่นให้หากเขาไม่รู้จักการเตรียมตัวเองให้ดี เขามองว่าโอกาสที่เขาได้รับมาจากการที่เขาให้ความเคารพผู้อื่นและฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่เขาทำมาตลอดคือการ “Always Delivering Beyond Expectation” หรือการทำให้มากกว่าที่คนคาดหวังไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรือโปรเจคใหญ่ๆ พี่ไมค์จะยึดคตินี้เสมอซึ่งท้ายที่สุดมันก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เขาก้าวขึ้นมาเป็น Country Manager ของ Visa ประเทศไทย ได้ในปัจจุบัน

พี่ไมค์อธิบายว่า “ถ้าเขาขอมาหนึ่ง แต่ผมทำกลับไปหนึ่งแล้วผมบวกสองกับสามเป็นตัวเลือกที่จะเสนอขึ้นไปด้วย มันจะแสดงให้เห็นว่าถึงความพยายาม ว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆมันก็เหนือความคาดหมายได้”

ความสุขในการทำงาน

เมื่อ Career Fact ได้มีโอกาสถามพี่ไมค์ว่า ความสุขในการทำงานของพี่ไมค์คืออะไร?

พี่ไมค์กล่าวไว้ 3 ข้อ

1. งานต้องเติมเต็มสิ่งที่เชื่อ

การทำงานอยู่ที่ Visa สำหรับเขาเป็นงานที่มีความสุขมาก เพราะเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของงานมันใหญ่กว่าแค่ตัวเลขกำไรที่มากขึ้น มากไปกว่านั้นคือการได้ช่วยยกระดับชีวิตของคน ได้สร้างโอกาสทางการค้าที่ปลอดภัยและสะดวกขึ้นให้กับสังคม

2. อย่าทำแค่ในสิ่งที่ตัวเองรัก แต่ต้องรักในสิ่งที่ตัวเองทำ พยายามหามุมที่รักมันได้

มันไม่มีหรอก งานที่ใครจะได้ทำในสิ่งที่ชอบหรือรักทั้งหมด ในทุกงานที่เขาทำ เขาจะคลายปัญหาจากก้อนใหญ่ให้เป็นก้อนเล็กๆ แล้วค่อยหาก้อนที่เขาชอบอย่างน้อยหนึ่งก้อนที่เขาสามารถสนุกไปกับมันได้

3. เวลาทำงาน ต้องมีความสุขไปกับคนรอบตัว

การทำงานที่ดีคือเราต้องมีความสุขไปกับเพื่อนร่วมงาน เพราะต่อให้งานจะหนักหรือโหดแค่ไหน ความเครียดก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้ ถ้าคนรอบตัวเป็นคนที่ตั้งใจทำงานและทุ่มเท เท่านี้ชีวิตก็จะหาทางรักษาสมดุลไว้ได้เอง การทำงานก็จะสนุกขึ้น ทุกคนต่างก็มีความสุขขึ้น

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights