ในช่วงที่ผ่านมา การย้ายกลับมาทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการย้ายทีมของโรนัลโด้นั้นเกิดจากเอเย่นต์ของเขาซึ่งดูแลแข้งระดับพระกาฬคนนี้ตั้งแต่โลกยังไม่รู้จักว่าเขาคือใคร
วันนี้ Career Fact จะพาทุกท่านมาเพลิดเพลินกับเรื่องราวสุดพลิกผันของเอเย่นต์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกคนนี้กัน
หลงใหลในฟุตบอล
จอร์จ เมนเดส (Jorges Mendes) เกิดเมื่อปี 1966 ในเมืองลิสบอน (Lisbon) ประเทศโปรตุเกส เขาเกิดในสิ่งแวดล้อมที่เรียบง่ายโดยมีคุณพ่อทำงานที่โรงงานปิโตรเลียม ส่วนคุณแม่สานหมวกฟางและตะกร้าขายที่ชายหาด
ในช่วงวัยรุ่น จอร์จได้ลองทำงานหลายอย่างมากไม่ว่าจะขายเสื้อผ้าหรือเป็นเด็กถือโคนในโรงงาน Cornetto แต่สิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดคือการเป็นนักฟุตบอล
ถึงจะมีจิตวิญญาณในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่มันกลับสวนทางกับความสามารถของเขา จอร์จเดินทางไปคัดตัวกับหลายๆ สโมสรในบ้านเกิดและได้คำตอบแบบเดียวกันทุกที่นั่นคือ “เขาไม่ผ่านการคัดเลือก”
หาโอกาส
จอร์จยังคงไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่เขาหลงใหล เมื่ออายุ 20 ปี เขาตัดสินใจย้ายออกจากลิสบอนไปอยู่เมืองเล็กๆ แถบชายฝั่งที่ชื่อว่า วิอานา โด คาสเตโล่ (Viana do castelo) กับพี่ชาย เพื่อหาโอกาสเป็นนักฟุตบอลกึ่งอาชีพในลีกระดับล่างของประเทศ
ในระหว่างหาสโมสรอยู่ จอร์จก็ตัดสินใจเปิดร้านวีดีโอที่ห้างแห่งหนึ่งในเมืองเพื่อหาเลี้ยงชีพ จนกระทั่งควักเงินเก็บก้อนหนึ่งเพื่อเปิดบาร์ริมหาดและไนท์คลับ นอกจากนั้นเขายังรับหน้าที่เป็นดีเจในร้านอีกด้วย
จนแล้วจนรอด จอร์จก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลเสียทีหลังจากผ่านการทดสอบฝีเท้ากับสโมสร ลังเอซีส (Lanheses) นอกจากเรื่องการลงเล่นแล้ว เขายังขอรับหน้าที่ทำงานเกี่ยวกับการลงโฆษณาในสนามอีกด้วย ซึ่งช่วยให้สโมสรมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
อย่างไรก็ตาม เหมือนทุกสิ่งถูกกำหนดมาแล้วว่าชีวิตของจอร์จกับการเป็นนักฟุตบอลนั้นคือเส้นขนาน เขายังคงเป็นแค่นักเตะไร้พรสวรรค์และคิดว่าไปทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า จอร์จยอมแพ้ต่อโชคชะตาและหันมาโฟกัสกับบาร์ของเขาเต็มตัว
โชคชะตาพลิกผัน
เนื่องจากเมืองที่จอร์จย้ายมาอยู่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขาจึงได้พบกับนักฟุตบอลมากมายจากสโมสรชื่อดังในโปรตุเกสอย่างปอร์โต้ (Porto) หรือวิตอเรีย (Vitória S.C.) จนกระทั่งคืนหนึ่งในปี 1996 นูโน่ ซานโต้ (Nuno Santo) ผู้รักษาประตูจากทีมวิตอเรียก็เดินเข้ามาในร้านของเขา
ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างถูกคอในฐานะคนรักฟุตบอลจนความสนิทสนมและความไว้ใจก่อตัวขึ้น และนำพาโอกาสในวงการฟุตบอลกลับมาสู่ตัวเขาอีกครั้ง เมื่อนูโน่กำลังจะเจรจาเรื่องสัญญากับลาคอรุญญ่า (La Coruna) สโมสรชื่อดังในสเปน จอร์จคือคนที่ถูกร้องขอให้มาเป็นคนกลางในการเจรจาครั้งนี้เพราะนูโน่ไว้ใจและสัมผัสได้ถึงความสามารถในการพูดคุยต่อรองของจอร์จ แน่นอนว่าเขาคว้าโอกาสนี้ไว้
เสในการพูดของจอร์จทำให้ข้อเสนอของเขายากที่จะปฏิเสธ ท้ายที่สุดทางสโมสรจึงตกลงคว้าตัวนูโน่ไว้ หมายความว่าจอร์จสามารถปิดดีลแรกของเขาได้สำเร็จ และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพเอเย่นต์นักฟุตบอลของเขา
เอเยนต์ชื่อกระฉ่อน
จอร์จตัดสินใจทุ่มเงินเปิดบริษัทเอเจนซี่นักฟุตบอลชื่อว่า GestiFute และเริ่มให้บริการนักเตะในประเทศตั้งแต่นักแข่งโนเนมไปถึงระดับสตาร์ อย่างไรก็ตามจอร์จยังคงมีลูกค้าเพียงหยิบมือในช่วงแรกของกิจการ เพราะชื่อเสียงของเขายังไปไม่ถึงนักเตะระดับชั้นนำในประเทศนัก
จนกระทั่งช่วงฤดูร้อนในปี 2002 จอร์จก็สามารถปิดดีลของนักเตะที่ชื่อว่า ฮูโก้ เวียโน (Hugo Viano) จากทีมสปอร์ติ้งลิสบอน (Sporting CP) ในโปรตุเกสให้ย้ายไปสู่ทีมนิวคาสเซิลในอังกฤษ (Newcastle United) ด้วยราคาถึง 12 ล้านยูโรได้สำเร็จซึ่งนี่ถือเป็นดีลระหว่างประเทศดีลแรกของบริษัท ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อของ “จอร์จ เมนเดส” แพร่กระจายไปทั่ววงการฟุตบอลอาชีพในโปรตุเกส โดยคติของจอร์จคือเขาจะทำให้ลูกค้าของเขาได้รับเงื่อนไขที่ดีที่สุดจากสโมสรยักษ์ใหญ่
ในช่วงปลายปีเดียวกัน มาเรีย โดโรเลส คุณแม่บังเกิดเกล้าของนักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งติดต่อขอใช้บริการกับจอร์จเพื่อโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพในระดับสูงของลูกชายเธอ และแล้วจอร์จก็สามารถปิดดีลให้ลูกค้าดาวรุ่งของเขาย้ายจากสปอร์ติ้งลิสบอนมาสู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวถึง 12 ล้านปอนด์
ดาวรุ่งคนนั้นมีชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้
นายหน้าลูกหนังที่รวยที่สุด
จอร์จได้รับเงินราวๆ 10% จากการย้ายทีมของโรนัลโด้ทุกครั้งซึ่งส่วนใหญ่ถือว่าเป็นเงินก้อนโตทั้งนั้น อย่างตอนที่ย้ายมาแมนยู เขาได้ส่วนแบ่งถึง 1.2 ล้านปอนด์หรือราวๆ 54 ล้านบาท และได้มาเพิ่มอีก 8 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 360 ล้านบาทจากการที่โรนัลโด้ย้ายไปเรอัล มาดริด
บริษัท GestiFute กลายเป็นบริษัทเอเจนซี่ที่มีแต่ลูกค้าบิ๊กเนม นอกจากนักเตะระดับโลกหลายคนแล้ว ยังมีโค้ชระดับแถวหน้าของวงการฟุตบอลเป็นลูกค้าอีกด้วย ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ โจเซ่ มูริญโญ่ ที่ใช้บริการของจอร์จตั้งแต่ย้ายมาคุมทีมเชลซี ต่อด้วยการมาคุมอินเตอร์ มิลานที่ทำให้มูริญโญ่เป็นผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลก จากนั้นก็ต่อด้วยสัญญา 4 ปี มูลค่า 40 ล้านปอนด์กับการย้ายมาคุมเรอัล มาดริด
นอกจากการเป็นเอเย่นต์ส่วนบุคคลแล้ว จอร์จยังเป็นเอเย่นต์ประจำสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตันในอังกฤษอีกด้วย เขาเข้ามาทำหน้าที่ในปี 2016 และจัดการป้อนขบวนนักเตะฝีเท้าดี 12 คน เข้าสู่ทีม เราจึงไม่แปลกใจที่เห็นนักเตะโปรตุเกสหลายคนในทีมนี้ ที่สำคัญคือโค้ชที่มาคุมทีมวูล์ฟก็คือคนที่เข้าไปในบาร์ของจอร์จเมื่อ 20 กว่าปีก่อนและเป็นดีลแรกของในฐานะเอเย่นต์ของจอร์จนั่นก็คือนูโน่ ซานโต้ที่ยังคงเป็นลูกค้าและเพื่อนรักของเขานั่นเอง
ปัจจุบัน ทรัพย์สินส่วนตัวของจอร์จถูกประเมินไว้ที่ 130 ล้านเหรียญหรือราวๆ 4,250 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นเอเย่นต์นักฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นที่เรียบร้อย เขาเดินทางมาไกลมากจากค่ำคืนในบาร์วันนั้นที่พบนูโน่ ชีวิตของเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่จินตนาการไว้ตั้งแต่แรก จากคนที่ยอมแพ้ในเรื่องฟุตบอลกลับกลายเป็นเอเยนต์ของนักฟุตบอลระดับโลก เมื่อมีโอกาสเข้ามา เราก็ควรจะคว้ามันไว้ วันหนึ่งมันอาจจะทำให้เราค้นพบบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
อ้างอิง
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเร…
