เจตน์ จรุงเจริญเวชช์: CMO แห่ง N-Squared ผู้ปลุกปั้นตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในไทย

วันนี้ #CareerTalk จะมาพูดคุยกับ ‘พี่เจตน์’ เจตน์ จรุงเจริญเวชช์ Partner and CMO แห่ง N-Squared eCommerce ผู้ก้าวเข้ามาในเส้นทางอีคอมเมิร์ซในไทยตั้งแต่เริ่มต้น และปลุกปั้นตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี

รู้จักกับพี่เจตน์

พี่เจตน์จบปริญญาตรีสาขา Business Administration Marketing จาก University of Colorado ประเทศสหรัฐอเมริกา

เหตุผลที่เขาเลือกเรียนสายธุรกิจ เพราะรู้สึกว่าสามารถนำมาใช้กับการทำงานและชีวิตประจำวันได้ง่ายที่สุด แม้หากย้อนเวลากลับไปพี่เจตน์ก็แอบอยากเลือกเรียนด้านไอทีคอมพิวเตอร์หรือวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อยู่เหมือนกันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างทุกวันนี้ แต่การเรียนธุรกิจยังคงน่าสนใจและก็ทำได้หลายอย่าง

หลังกลับจากอเมริกาพี่เจตน์หางานด้านการตลาดเพราะเป็นด้านที่เรียนจบโดยตรง จนได้โอกาสทำงานที่แรกกับบริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย และทำงานกับทีม International Market ในตำแหน่ง Product Manager ดูเรื่องสินค้าขายในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แต่ด้วยความอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เขาจึงมองหาโอกาสครั้งใหม่เพื่อเปิดประสบการณ์

เข้าสู่โลกอีคอมเมิร์ซ

หากย้อนไปในปี 2013 อีคอมเมิร์ซและสตาร์ทอัพเป็นอะไรที่ใหม่มากในไทย แต่เป็นช่วงที่หลายๆ บริษัทเริ่มบุกเข้ามาทำตลาดในไทยเช่นกัน และนั่นก็เป็นโอกาสครั้งใหม่ที่พี่เจตน์กำลังมองหาอยู่

เป็นจังหวะและเวลาที่เหมาะสม หรือเรียกง่ายๆ ว่า ถูกที่ถูกเวลา

เขากล่าว

จากที่เคยเห็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตใหญ่มากในอเมริกา และมีบริษัทชั้นนำระดับโลกพร้อมทีมที่เก่งเข้ามาลงทุนในประเทศไทย พี่เจตน์บอกว่าเขาเลยสนใจและลองทำงานในด้านอีคอมเมิร์ซกับ Lazada เป็นที่แรก โดยได้รับหน้าที่เป็นคนคอยดูแลด้านวิเคราะห์การตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นทักษะความรู้ที่ใหม่มากสำหรับพี่เจตน์ในเวลานั้น

เขาเล่าให้ฟังว่า ณ เวลานั้น รูปแบบของการทำ Online Marketing คือการยิงโฆษณาในช่องทางต่างๆ เพื่อหาลูกค้ามาซื้อสินค้าให้ได้ ซึ่งปัจจุบันการยิงโฆษณาผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่ย้อนไป 7-8 ปีก่อน ถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่และเฉพาะด้านมากๆ โดยความต่างที่ชัดเจนคือเรื่องของเครื่องมือของสื่อออนไลน์ ตั้งแต่การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลข้อผู้ใช้งาน ไม่ได้ใช้งานง่ายเหมือนทุกวันนี้ ทำให้ใช้คนทำงานเยอะ เพื่อดูแลแต่ละช่องทางให้ครบด้าน ต่างจากทุกวันนี้ที่เครื่องมือต่างๆ ในกูเกิลหรือเฟซบุ๊กสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและรวมถึงบันทึกการใช้งานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

บุกเบิกตลาดอีคอมเมิร์ซที่ไทยและอินโดฯ

พอทำงานได้ระยะหนึ่งพี่เจษได้เรียนรู้มากขึ้นด้าน Online Marketing จึงรับโอกาสจากผลงานที่ดีให้ไปทำงานที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดใหญ่ที่สุดของ Lazada ไปดูแลทีมและแคมเปญต่างๆ ทำได้ 2-3 ปี เขาก็ได้คุมทีมใหญ่ขึ้น นอกจากนี้พี่เจตน์เล่าให้ฟังว่าผลงานที่ภูมิใจคือ ตอนเข้าไปทำงานช่วงแรกนั้น ที่ Lazada ยังมีแค่เว็บไซต์เท่านั้น แต่ได้มีโอกาสนำทีมและมีส่วนร่วมกับการเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับมือถือจนมียอดดาวน์โหลดหลายล้านดาวน์โหลด และปัจจุบันมือถือแทบทุกเครื่องในไทยและอินโดนีเซียก็ต้องมีแอปฯ ของ Lazada ไว้ติดเครื่องกันแทบทั้งสิ้น

พี่เจตน์ยังคงย้ำว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เติบโตในตำแหน่งการทำงานคือการอยู่ถูกที่ถูกเวลา แต่อีกส่วนสำคัญก็คือการทำงานหนักและเต็มที่เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยวิธีการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองของเขาคือการเรียนรู้ผ่านงานและการลงมือทำจริง โดยไม่กลัวที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ อยู่ตลอด

เพราะเรากำลังจะสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับประเทศขึ้นมา และก็เติบโตเร็วมาก ทำให้เราเติบโตเร็วตามบริษัทด้วย พร้อมกับความคาดหวังและความรับผิดชอบที่มากขึ้น

เขาเสริม

จาก Eatigo สู่ N-Squared

หลังจากทำงานอยู่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาเกือบ 4 ปี พี่เจตน์รู้สึกว่าได้เรียนรู้เยอะมาก แต่การทำแค่ Online Marketing ยังไม่เพียงพอ จึงอยากหาโอกาสทำงานในตำแหน่งที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านอื่นเพื่อมุ่งสู่การเป็น General Management ให้ได้ ก่อนจะได้โอกาสครั้งใหม่ที่ Eatigo กับตำแหน่ง CMO ที่ต้องดูแลหลายเรื่องในด้านการจัดการตั้งแต่มองหาพาร์ทเนอร์ ทำพีอาร์และการตลาดออฟไลน์ รวมถึงกำลังขยายตลาดในอีกหลายประเทศ แต่ทำอยู่เพียงไม่กี่ปีก็ได้รับชักชวนให้กลับมาทำอีคอมเมิร์ซเต็มตัวอีกครั้ง

พี่เจตน์เล่าให้ฟังว่าเขารู้จักกับคุณหนึ่ง – นัฐพล CEO ของ N-Squared ตั้งแต่ตอนที่ทำงานกับ Lazada เพราะเป็น Seller รายใหญ่เจ้าหนึ่งของแพลตฟอร์ม พอเห็นโอกาสในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตมากๆ ซึ่งหากย้อนกลับไปในปี 2019 พี่เจตน์บอกว่าทุกคนซื้อของผ่านออนไลน์กันได้ทั้งนั้นและมากขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่เขาทำงานกับ Lazada ในการบุกเบิกตลาดในไทยและอินโดนีเซีย เขาจึงตัดสินใจมาร่วมงานที่ N-Squared ในตำแหน่ง CMO ในทันที

N-Squared เป็นมากกว่าแพลตฟอร์ม แต่เราเป็นคนขายด้วย มันเลยไม่ได้เป็นธุรกิจรูปแบบเดิมที่เราเคยทำ

เขากล่าว

N-Squared กับตลาดอีคอมเมิร์ซ

เราชวนให้พี่เจตน์อธิบายถึงรูปแบบการทำธุรกิจของ N-Squared ซึ่งเขาให้คำตอบว่า N-Squared เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซและเป็นตัวแทนการขายของออนไลน์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหน้าที่ของ N-Squared คือการเอาแบรนด์สินค้าของพาร์ทเนอร์ไปขายในออนไลน์ รวมถึงขายสินค้าแบรนด์ตัวเองด้วย ซึ่งเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมากๆ สำหรับพี่เจตน์ และเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ท้าทายด้วยกับการพา N-Squared เติบโตในยุคทองแห่งอีคอมเมิร์ซ

พี่เจตน์บอกว่า N-Squared จะคอยดูแลแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบหรือเรียกว่าการตลาดแบบ End-to-End ตั้งแต่การเก็บสต็อคสินค้า การบริการคลังสินค้า การวางกลยุทธ์การขายและดูแลร้านค้าในช่องทางต่างๆ รวมถึง Marketing Service และ Customer Service ด้วย และอีกด้านหนึ่ง N-Squared ยังเป็น Tech Company ที่พัฒนาซอฟแวร์ของตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายให้กับแบรนด์ต่างๆ เช่น  N-Squared Business Portal ซึ่งเป็นซอฟแวร์ที่เชื่อมกับทุกระบบมาร์เก็ตเพลส โลจิสติกส์และโกดัง ช่วยให้สามารถจัดการบริหารทุกเรื่องได้ในที่เดียวผ่านซอฟแวร์ และเป็นจุดสำคัญที่ทำให้  N-Squared ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าสำหรับลูกค้าได้ในปัจจุบัน

เมื่อถามว่าแล้ว CMO แห่ง  N-Squared ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง? พี่เจตน์ก็ให้คำตอบกับเราว่าหน้าที่หลักของเขาคือดูแลเรื่องการตลาดของ  N-Squared ทั้งหมดให้กับแบรนด์มากกว่า 100 แบรนด์ ตั้งแต่เรื่องค่าใช้จ่าย จนถึงยอดขายในแต่ละปีให้กับแบรนด์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ นอกจากนี้ดูแลช่องทางขายใหม่ๆ ของแบรนด์ธุรกิจ เช่น การขายของในเฟซบุ๊กที่เป็นโซเชียลคอมเมิร์ซ หรือขายของผ่านไลฟ์สด เป็นต้น

N-Squared กับการเติบโต

พี่เจตน์บอกว่าในปีที่ผ่านมา N-Squared ก็เริ่มเปิดช่องทางใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ช่องทางหลักอย่าง Lazada และ Shopee เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดใหม่มากขึ้นให้กับลูกค้าและแบรนด์ของ  N-Squared เองด้วย เช่น การขายของผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซและไลฟ์สด นอกจากนี้ N-Squared ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อ ‘Chatpify’ ซึ่งเป็นการนำร่องใช้ระบบ AI ใน Chat Bot เพื่อจัดการออเดอร์สินค้า และคลังสินค้า โดยสามารถเชื่อมต่อกับแบรนด์หรือระบบโลจิสติกส์ได้

ตั้งแต่เริ่มธุรกิจมา N-Squared ถือเป็นบริษัทที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง และทุกปียอดขายก็โตแบบก้าวกระโดด เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นตลาดที่โตเร็วและกำลังเเข่งขันกันอย่างดุเดือด ในปัจจุบัน N-Squared มีพนักงานจำนวนกว่า 300 คนในประเทศไทย มีแบรนด์ที่ถืออยู่ในพอร์ตมากกว่า 100 แบรนด์ รวมถึงเปิดตลาดในประเทศใกล้เคียงอีก 5 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศเดียวกับที่ Lazada และ Shopee มี คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และสิงค์โปร์

การเปลี่ยนแปลงของอีคอมเมิร์ซ

ในฐานะที่พี่เจตน์คลุกคลีและอยู่ในแวดวงของธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาหลายปีตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เขามองว่าภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตมากๆ ขณะที่ในมุมมองของลูกค้าก็แทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ทำให้ความคาดหวังของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นด้วย 

พี่เจตน์ยังแชร์ให้ฟังอีกว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกับอีคอมเมิร์ซเปลี่ยนแปลงไปมากหากเทียบกับหลายปีก่อน ทั้งเรื่องของความรวดเร็วทันใจและคุณภาพของสินค้า ยิ่งในทุกวันนี้การซื้อออนไลน์เป็นเรื่องปกติ และใช้กับสินค้าทุกรูปแบบ จากที่เมื่อก่อนคนมักจะซื้อของออนไลน์กับสินค้าบางประเภท รวมถึงมูลค่าในการซื้อต่อครั้งของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งลูกค้าพร้อมที่จะซื้อของแพงขึ้นและมากขึ้น

นอกจากนี้ในมุมมองพี่เจตน์แล้วอนาคตของการไลฟ์ช้อปปิ้งก็มีทิศทางที่ดีในการเติบโตด้วย สามารถเป็นเทรนด์และเป็นอนาคตของผู้ประกอบการได้เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันและอนาคต SME หรือ แบรนด์ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง เช่น ถ้าไม่มีที่เก็บของก็เช่าได้ หรือการตลาดออนไลน์ก็มีเอเจนซีที่สามารถจ้างมาช่วยได้ ดังนั้นแบรนด์หรือ SME จึงควรโฟกัสกับสินค้าของตัวเองและการตลาดให้สินค้านั้นให้มากที่สุด แล้วเรื่องอื่นๆ ค่อยหาคนอื่นมาช่วยแบ่งเบาให้มีประสิทธิภาพ

เป้าหมายส่วนตัวที่อยากเป็นส่วนหนึ่ง

พี่เจตน์บอกว่าเป้าหมายของ N-Squared คือการเป็น Leading E-Commerce Solution Provider ในภูมิภาคอาเซียน แม้ปัจจุบัน N-Squared เป็นหนึ่งในธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ในตลาด แต่ก็ยังมุ่งพัฒนาระบบทุกอย่าง ทั้งซอฟแวร์ หรือการให้บริการกับลูกค้าและแบรนด์ต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆ

และไม่ว่าช่องทางสื่อเจ้าใหญ่อย่างกูเกิลหรือเฟซบุ๊กจะพัฒนาต่อไปอย่างไร N-Squared ก็จะพัฒนาให้ทันด้วย รวมถึงในอนาคตอันใกล้นี้ N-Squared ก็จะปั้นแบรนด์ออนไลน์ใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้นเรื่อยๆ 

เมื่อเล่าถึงเป้าหมายของบริษัทแล้วเราจึงอยากฟังเป้าหมายส่วนตัวของพี่เจตน์ด้วย ซึ่งคำตอบของเขาคือยังมีความสุขและสนุกกับ N-Squared และก็ยังเชื่อว่าบริษัทจะเติบโตต่อไปได้อีกมาก ดังนั้นเป้าหมายของพี่เจตน์จึงอยากทำให้ N-Squared สามารถเอ็กซ์ซิสหรือไอพีโอธุรกิจได้ในอนาคต และหลังจากนั้นก็อยากจะทำธุรกิจของตัวเองในรูปแบบการขายสินค้าต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ยังคงน่าสนใจและท้าทายสำหรับตัวเขาเสมอตั้งแต่วันแรก

บทเรียนที่อยากจะฝาก

พี่เจตน์เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่อยากจะลองทำธุรกิจของตัวเองหรืออยากลองขายของออนไลน์ คำแนะนำของเขาจึงไม่ซับซ้อนคือให้ “ลองเลย” 

เพราะอย่างที่พี่เจตน์ได้พูดถึงตั้งแต่แรก ว่าในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยให้เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น แค่มีไอเดียก็สามารถต่อยอดได้ง่าย โดยอาจจะซื้อหรือเช่าก็ได้ ยิ่งการเปิดในแพลตฟอร์มอย่าง Shopee หรือ Lazada เพียงแค่ไม่กี่คลิกก็สามารถเปิดหน้าร้านออนไลน์ได้แล้ว อีกทั้งเรื่อง Online Marketing ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้กูเกิลมีทุกอย่างที่คอยช่วยเหลือแนะนำไว้เรียบร้อยหมดก็สามารถทำแคมเปญการตลาดได้ จึงอยากให้คนมาลองขายของออนไลน์กันมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ไม่มากก็สร้างโอกาสทำรายได้ที่ดีและเติบโตได้

หลายคนอาจจะคิดว่าคงจะช้าไปหากอยากลองเปิดร้านออนไลน์

ตลาดออนไลน์และการซื้อของออนไลน์ของคนในวันนี้ยังเติบโตได้อีกมาก และมีเปอร์เซ็นต์ของมาร์เก็ตแชร์ที่น้อยอยู่มากครับ ดังนั้นการขายของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องที่ช้าไปหากคิดจะเริ่มต้น และยังมีโอกาสสำหรับทุกแบรนด์และทุกคน

พี่เจตน์ทิ้งท้าย

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights