Evan Spiegel: ผู้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการส่งข้อความผ่าน Snapchat

เปิดชีวิต ‘อีวาน สปีเกล’ CEO แห่ง Snap Inc. และผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน Snapchat เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในการบริโภครับส่งข่าวสาร

เขาเลือกที่จะ ’ฟังจิตวิญญาณ’ ของตัวเอง ชื่นชอบที่เลือกในสิ่งที่ตัวเขาต้องการมากกว่าให้โลกคอยชี้นำ และมันทำให้เขาได้พบเจอสิ่งใหม่อยู่เสมอ ท้ายที่สุดสิ่งที่เขาทำก็พาให้ทุกคนได้รับกับประสบการณ์ใหม่ของโลกใบนี้ที่ต่างออกไปด้วยเช่นกัน

ติดตามได้ที่นี่

ก่อนที่เขาจะเป็นเขา

ก่อนที่ อีวาน สปีเกล จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับท็อปของโลกและประสบความสำเร็จกับการสร้าง Snapchat เหมือนทุกวันนี้ อีวานเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ โดยมีพ่อและแม่เป็นนักกฎหมาย ชีวิตที่ดูหรูหราเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นอาจจะทำให้เขากล้าเลือกเดินเส้นทางที่แตกต่าง นั่นคือการเลือกลาออกจากมหาวิทยาลัยแสตนด์ฟอร์ด

เดือนมิถุนายน 2012 เขามีโอกาสขึ้นพูดงานจบการศึกษาที่แสตนด์ฟอร์ด เขาต้องเห็นเพื่อนของเขาจบการศึกษาและครอบครัวของเขาอยู่ในเมืองเพื่อทำพิธี และแน่นอนว่าการคิดถึงช่วงเวลานั้นคงเป็นเรื่องน่าอาย เพราะอีวานไม่ได้เลือกเส้นทางแห่งการเรียนจบ เหตุผลสำคัญอาจจะอยู่ในคำกล่าวของอีวานกับผู้สำเร็จการศึกษาจาก USC Business School เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 “การคล้อยคนอื่นนั้นเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติจนบางทีเราก็ลืมไปว่ามันทรงพลังเพียงใด แต่สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ก็คือเวลาที่เราฟังเสียงกระซิบของจิตวิญญาณของตัวเอง และยอมปล่อยให้ตัวเองถูกดึงไปในทิศทางที่แตกต่างจากคนอื่น” อีวานกล่าว อีวานไม่ได้คล้อยตามใครอีกต่อไปแล้ว และนั่นก็อาจเป็นทางเลือกของชีวิตที่ทำให้เขาสร้าง Snapchat ขึ้นมาในปี 2011

ความแตกต่างที่ถูกยอมรับ

อีวานสร้างแอปชื่อ Picaboo ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Snapchat ในเวลาต่อมาเพื่อนของเขาสองคนคือ เรจจี บราวน์ และบ๊อบบี้ เมอร์ฟี่ Snapchat เป็นแอปพลิชันโซเชียลเน็ตเวิร์คที่มีจุดเด่นคือการใช้งานที่แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ทั้งข้อความส่วนตัวที่จะทำลายตัวเองหลังจากมีคนอ่านแล้ว ทั้งการให้ถ่ายคลิปวิดีโอในแนวตั้งแทนที่จะเป็นแนวนอน เพราะโดยปกติเราก็จับโทรศัพท์ในแนวตั้ง ความน่าสนใจนี้สามารถดึงดูดนักลงทุน บริษัท สื่อโฆษณาและที่สำคัญที่สุดคือผู้ใช้กว่า 130 ล้านคนต่อวัน

“Snapchat ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์มากมาย มันมีปรัชญาพื้นฐานที่สวนทางกับโซเชียลมีเดียแบบดั้งเดิมโดยตรง” อีวานกล่าว

อีวานบอกว่าทุกคนหันมาเล่น Snapchat เพราะ Snapchat เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เป็นพื้นที่ที่เราสามารถค้นหาวิดีโอเบื้องหลังจาก NFL และรางวัลออสการ์สี่ปีก่อนหน้านั้นได้ จนถึงบารัค โอบามาที่ใช้มันเพื่อโปรโมตการปฏิรูปการ Health Care เลยทีเดียว และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนอยากจะใช้งานแอปพลิเคชันนี้ ความไม่เหมือนใครคือคำตอบที่อีวานมอบให้กับทุกคน

มุมอื่นที่น่าสนใจ

อีวานในวัย 25 ปีอาจจะแตกต่างจากคนอายุ 25 ปีที่คุณเคยพบ ความต่างที่เห็นได้ชัดหน่อยก็คือเขาเป็นเจ้าของเฟอร์รารี เขาเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ที่มีใบอนุญาต และแฟนของเขาเป็นถึงอดีตนางแบบ Victoria’s Secret แต่บางอย่างก็ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้เว้นแต่คุณจะดูเขาทำงาน หลายคนกล่าวชื่นชมว่า อีวานสร้างผลิตภัณฑ์ได้เก่งเทียบเท่า มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก และ สตีฟ จ็อปส์ เลยทีเดียว

และในขณะที่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังอวดชีวิตของพวกเขาทั้งหมดลงบนอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโซเชียลอย่าง Instagram หรือ Facebook และ Snapchat อีวานกลับหลีกเลี่ยงที่จะทำแบบนั้นเพราะเขาให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เขาแทบไม่แชร์เรื่องส่วนตัวให้ใครรู้ ถ้าจะแชร์ก็ในปริมาณที่น้อยกับคนไม่กี่คน นิสัยแบบนี้เองที่กลายเป็นหลักการพื้นฐานของ Snapchat

เลือกที่จะสร้างด้วยความรู้สึก

สำหรับอีวาน เขาได้รับแรงผลักดันจากแนวคิดที่ว่าผู้คนกำลังมองหาทางเลือกอื่นสำหรับ Facebook และ Instagram เขาอธิบายในการประชุมเมื่อต้นปี 2014 ว่า “เราไม่จำเป็นต้องบันทึกภาพโลกแห่งความเป็นจริงและจำลองมันขึ้นมาใหม่บนออนไลน์อีกต่อไป ทุกวันนี้เราก็แค่ใช้ชีวิตและสื่อสารไปพร้อม ๆ กัน” และไม่ใช่แค่ว่าอีวานจะมีแนวคิดแปลกใหม่เหล่านี้เท่านั้น แต่เขาสามารถลงมือทำมันได้ด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้อีวานแตกต่างออกไปจากคนอื่นๆ คือการที่ความคิดหลายอย่างของเขาซึ่งส่วนใหญ่นั้นค่อนข้าง ‘แหกคอก’ และเป็นไอเดียที่มีความสดปราศจากการขัดเกลา ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณเปิดแอปพลิเคชัน Snapchat ขึ้นมาคุณจะเข้าสู่กล้องของแอปโดยตรงโดยไม่มีสิ่งใดให้อ่านหรือดู นั่นก็เพราะว่าเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเป็นฝ่ายสร้างเนื้อหาด้วยไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายรอคอยที่จะบริโภคเนื้อหาอย่างเดียว Snapchat ยังเป็นเจ้าแรกที่เริ่มฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแนวตั้งเพราะโดยปกติแล้วทุกคนก็จับโทรศัพท์ในแนวตั้ง ฟีเจอร์นี้สวนทางกับความคิดที่ว่าการถ่ายวิดีโอควรจะถ่ายในแนวนอน

“มันคือการสร้างบางสิ่งจากความรู้สึก” อีวานเคยกล่าวไว้ในปี 2014 และเขายังกล่าวอีกว่า “ถ้ามันอยู่ในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปก็คงต้องเกี่ยวกับเรื่องงาน แต่นี้อยู่ในมือหรือในกระเป๋าของคุณ คุณย่อมต้องการให้มันรู้สึกสนุก เป็นมิตรและสะดวกสบายอยู่เสมอ”

นั่นทำให้เราเห็นว่าอีวานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเลือกใช้อุปกรณ์สื่อสารเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในรูปแบบที่ต่างออกไปจากที่เคยมีอยู่

ความเป็นส่วนตัว

อีวานให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก เมื่อเขาต้องพบกับเรื่องราวการขุดคุ้ยอีเมลในอดีตของเขาที่มีข้อความในประเด็นทางเพศจากเหล่านักข่าว และพยายามเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ ครอบครัว รวมไปถึงว่าเขาคบหาดูใจกับใครอยู่ ซึ่งเขารับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้และหาวิธีจัดการป้องกันปัญหาแบบนั้นอยู่เสมอ

“มันไม่ยุติธรรมเลยที่ผู้คนจะขโมยความลับของเราไปบอกกับสาธารณะ ในสิ่งที่เราต้องการให้เป็นส่วนตัว” เขาเคยกล่าวผ่านทวิตเตอร์แต่ถูกลบไปแล้ว

และนั่นทำให้อีวานนำมาใช้กับบริษัทของเขา การประชุมของ Snapchat หาข้อมูลได้ยาก แม้แต่พนักงานก็รู้เรื่องข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากในสื่อ ความเป็นส่วนตัวและความหลงใหลในความเป็นส่วนตัวของอีวานยังแสดงให้เห็นผ่านรูปร่างหน้าตาของบริษัทของเขา เหล่าอาคารสำนักงานที่เป็นอิสระ ตลอดแนวทะเล Venice Beach ที่ช่วยให้ทีมแยกจากกัน และแยกโครงการต่างๆ ไว้ ข้อมูลทุกประเภทจะถูกแบ่งปันตามความจำเป็นที่จะต้องรู้ และอีวานก็เป็นคนที่ชอบจะเลือกประชุมที่ทะเลมากกว่าห้องประชุมเพราะเขาคิดว่านั่นคือการมีความเป็นส่วนตัวแม้จะอยู่ในที่สาธารณะ แต่นั่นอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน และนั่นก็ยังคงเป็นความแตกต่างที่เรามักจะเห็นจากอีวานเสมอ

สร้างโอกาสในวิกฤติโรคระบาด

วิกฤติ COVID-19 ที่โลกประสบอยู่นั้น อีวานเห็นว่ามันเป็นเหมือนโอกาสสำหรับ Snapchat เขาหวังว่าอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ และแอปพลิเคชันจะช่วยให้ผู้คนสามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัส และในช่วงเวลาที่ทุกคนจำเป็นจะต้องอยู่บ้าน Snapchat ก็กำลังคิดค้นวิธีใหม่และเป็นประโยชน์ในการนำผู้คนมาอยู่ร่วมกันมากขึ้นโดยให้ความสำคัญกับอารมณ์ของผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะต่างประสบปัญหาที่ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง เขาจึงหาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับช่องว่างที่เกิดขึ้น

“Snapchat มีไว้เพื่อช่วยให้ผู้คนใกล้ชิดกับเพื่อน กับครอบครัว และช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ย่อมสำคัญที่สุด แน่นอนว่ายอดคำสั่งซื้อของอยู่ที่บ้านนั้นช่วยกระตุ้นการเติบโตของการมีส่วนร่วม” อีวาน กล่าวไว้

และเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เขามองว่าเป้าหมายของเขาคือ Snapchat Generation คือยุคที่นำความเป็นดิจิทัลและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้พวกเขาขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อไป และจะทำให้หลายธุรกิจฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดหากถ้าเขาเข้าไปมีส่วนร่วม

แรงบันดาลใจที่เรียนรู้ได้จากอีวาน

หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ บริษัทเทคโนโลยีเห็นภาพยนตร์ดนตรีและโทรทัศน์เป็นข้อมูล ในขณะที่ผู้กำกับ นักดนตรี หรือนักแสดง มองว่าเป็นอารมณ์และการแสดงออก นั่นเป็นเรื่องที่อีวานมองว่าเป็นความขัดแย้งกันในอุตสาหกรรมบันเทิง ที่บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผลิตเนื้อหามักจะมองในมุมที่แตกต่างกัน “ไม่ต้องค้นหาจัดเรียงและดู – แต่มีประสบการณ์” อีวานกล่าวถึงความสนใจที่จะสร้าง Snapchat ในมุมของความบันเทิงมากกว่าการนั่งจัดเรียงข้อมูล

“เรามีธุรกิจขนาดใหญ่ที่นี่และยังเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ที่ใช้ Snapchat ด้วย”

ปัจจุบัน

สิ่งที่อีวานกําลังสร้าง Snapchat ให้เป็นประสบการณ์การสื่อสารใหม่ มองเห็นถึงประสบการณ์ผู้ใช้และคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้คน เมื่อเห็นโอกาสและความแตกต่างที่เป็นประโยชน์ เขาก็พร้อมที่จะทำอยู่เสมอ และสําหรับตอนนี้โลกก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าที่จะปฏิบัติตาม เหมือนกับคำกล่าวที่เขายึดในทางที่เขาเลือกเดินมาตลอดจนประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ ถ้าเราไม่เหมือนใคร ก็เพียงใช้ความแตกต่างนั้นสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเอง นั่นคือสิ่งที่อีวานคงอยากจะบอกเรา

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights