ดราก้อน กฤติกร: บรรณาธิการ Main Stand ที่ได้ปล่อยของจากสิ่งที่ตัวเองรัก

วันนี้ Career Fact จะพาไปติดตามเรื่องราวของ ‘พี่ดราก้อน’ กฤติกร ธนมหามงคล บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์เล่าเรื่องราวกีฬา ‘Main Stand’ สื่อกีฬาออนไลน์ยักษ์ใหญ่ขยายธุรกิจสู่แพลตฟอร์มโทรทัศน์บนช่องที-สปอร์ต 7 (T-Sports 7) สถานีกีฬา 24 ชั่วโมงบนทีวีดิจิทัลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขยับคำว่า ‘กีฬา’ ให้เข้าใกล้กับผู้คนมากยิ่งขึ้นด้วยคอนเทนต์สปอร์ตไลฟ์สไตล์

เขาคือชายที่เติบโตมาพร้อมความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลที่ไม่ต่างจากเด็กผู้ชายหลายๆ คน 

เขาคือผู้สื่อข่าวที่รับโอกาสไปโอลิมปิกเกมส์ 2012

และเขาเคยเป็นถึงบรรณาธิการบริหาร FourFourTwo ประเทศไทย เครือนิตยสารฟุตบอลชื่อดังของประเทศอังกฤษที่เจาะตลาดกลุ่มคนรักฟุตบอลและรุกตลาดดิจิทัลแพลตฟอร์ม จนมียอดเข้าชมมากที่สุดประจำภูมิภาคเอเชีย   

เรื่องราวของคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายกีฬาจะน่าสนใจแค่ไหน ติดตามได้ที่นี่

 

เด็กที่มีแพชชันกับฟุตบอล

พี่ดราก้อนอยู่โรงเรียนประจำตลอดช่วงวัยเด็กที่วชิราวุธวิทยาลัย สิ่งที่เขาสนใจไม่ต่างจากเด็กผู้ชายหลาย ๆ คนคือกีฬา ‘ฟุตบอล’ และมีความฝันว่าอยากเป็นนักฟุตบอล เขามีไอดอลหลายคนตั้งแต่ โรแบร์โต บาจโจ้, เดนนิส เบิร์กแคมป์ รวมถึงร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (คนที่ติดตามฟุตบอลคงรู้จักกันดี) และยังติดตามข่าวสาร และเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ เป็นประจำ

พอช่วง ม.ปลาย พี่ดราก้อนก็โฟกัสการเรียนมากขึ้น และถึงเขาจะไม่ได้อยากเป็นนักฟุตบอลอีกต่อไป แต่ก็ยังอยากทำอาชีพที่ยังอยู่กับวงการฟุตบอลได้ จนได้เข้าเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พร้อมตั้งปณิธานว่าจะเป็นผู้สื่อข่าวกีฬา เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่ใกล้ชิด และคุ้นเคยกับฟุตบอลมากที่สุด

 

ความต้องการที่แน่วแน่

พี่ดราก้อนตอบคำถามตัวเองได้ว่าสิ่งที่จะทำให้ทำงานได้สนุกในอนาคตก็คือวงการกีฬา ตอนปี 2 เขาจึงฝึกงานที่แผนกข่าวกีฬาสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และขอฝึกงานที่สยามสปอร์ตด้วยปณิธานที่แน่วแน่ตอนปี 3  พี่ดราก้อนเล่าว่ารู้สึกตื่นเต้นและท้าท้ายมากเพราะเข้าไปในฐานะเด็กฝึกงาน แต่เพิ่งเข้าวันที่ 2 ต้องบินเดี่ยวโดยไม่มีใครประกบ ทำให้ต้องรับผิดชอบตัวเอง ทั้งยังได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และ “รู้เลยว่าเรียนจบแล้วต้องเริ่มที่นี่แหละ” 

ถ้าหากใครได้ติดตามวงการสื่อกีฬายุค 10 กว่าปีก่อนที่ไม่มีสื่อมากมายแบบทุกวันนี้ ในบรรดาสื่อกีฬาด้วยกันนั้น สยามสปอร์ตแทบจะครองตลาดอยู่เจ้าเดียว พี่ดราก้อนบอกว่าเปรียบเสมือนสโมสรบาร์เซโลน่า หรือเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่แห่งวงการกีฬาที่ใครก็อยากเข้าไปเป็นเด็กในอะคาเดมีกันเลยทีเดียว หลังจบปี 4 พี่ดราก้อนจึงสมัครงานที่สยามสปอร์ตในส่วนของสยามกีฬาทีวี

เขาบอกว่าทำงานที่นี่ทั้งสนุกปนเครียด เพราะเข้ามาพร้อมแพชชันที่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของการนำเสนอ แต่ก็เป็นองค์กรที่มีการแข่งขันสูง แถมคนในที่ทำงานส่วนใหญ่ก็มีภาระงานเยอะ ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง เขาจึงต้องใช้ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตัวเองค่อนข้างสูง

 

เอาตัวรอดด้วย MultiSkills

ตลอด 3 ปีครึ่งที่สยามสปอร์ต พี่ดราก้อนได้โอกาสทั้งอ่านข่าว พากย์ฟุตบอล จัดรายการ รวมถึงเขียนบทความลงบนสื่อสิ่งพิมพ์ เขาเรียนรู้การทำงานเบื้องหลังในสตูดิโอ และการเป็นฟรอนท์แมนเป็นผู้ประกาศเบื้องหน้าอย่างครบถ้วน นอกจากได้ทำงานภาคสนามกับการทำข่าวกีฬาซีเกมส์ปี 2011 ที่จัดขึ้นในเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนิเซียแล้ว พี่ดราก้อนเล่าว่าการมี Multi Skills สำหรับยุคนั้นอย่างการถ่ายภาพได้ ตัดต่อทำบทได้ และสื่อสารกับฝรั่งได้ ทำให้เขาได้รับโอกาสไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวคนเดียว แบบ Backpack Journalist 

การไปโอลิมปิกในฐานะนักข่าวไม่ได้น่าตื่นเต้นน้อยไปกว่าการไปโอลิมปิกในฐานะนักกีฬา เพราะเป็นมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุด พี่ดราก้อนบอกว่าแม้แลกมาด้วยความเหนื่อยแต่เป็นประสบการณ์ที่ดีของการเป็นผู้สื่อข่าวที่ต้องเจอให้ได้สักครั้งในชีวิต

เขาเรียนรู้ตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัยว่าเส้นทางของคนทำข่าวไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เนื้อหาที่ดี แต่ต้องมี Multi Skills ที่ต้องเอาตัวรอดให้มากพอกับทุกอย่าง ช่วงที่เรียนอยู่เขาเลยฝึกทุกอย่าง ทั้งการเล่าเรื่องด้วยภาษาเขียนและภาพ รวมถึงการตัดต่อ และสำหรับคนที่อยากเป็นผู้สื่อข่าวก็ต้องฝึกฝนทักษะเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ

 

ได้ปล่อยของ

พี่ดราก้อนลาออกจากสยามสปอร์ตและเริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวชุดแรกของไทยรัฐทีวี ก่อนที่จะได้รับโอกาสรับเลือกให้เป็น Country Manager และ บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร FourFourTwo ประจำประเทศไทย ในปี 2558

คาแรกเตอร์ของ FourFourTwo ก็ถูกจริตของพี่ดราก้อนพอดี เพราะเขาชอบหาเรื่องราวสนุก ๆ มาเล่ามากกว่าการทำคอนเทนต์ตามแพทเทิร์นเดิม ๆ โดยเขามีความตั้งใจว่าอยากทำลายกำแพงรูปแบบการรายงานกีฬาแบบเดิมๆ เช่น ถามคำถามเดิมก่อนแข่งว่ามั่นใจไหม ? พร้อมไหม ? เขารู้สึกว่าแพทเทิร์นแบบนี้ทำให้รูปแบบข่าวกีฬาซ้ำซากจำเจ ซึ่งดีเอ็นเอของ FourFourTwo เป็นนิตยสารที่เล่าเรื่องสนุกในวงการฟุตบอลที่เน้นความเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้เขาสนุกกับการทำงานและทุ่มเทได้อย่างเต็มที่ หลังพี่ดราก้อนเข้าทำงานราว 1 เดือน FourFourTwo ประเทศไทยก็กระโดดขึ้นมาเป็น FourFourTwo ประจำภูมิภาคเอเชียที่มียอดเข้าชมมากที่สุด

“คิดว่าที่ผ่านมา เรามาถูกทางแล้ว จนถึงวันที่มีโอกาสได้ปล่อยของจริงๆ” พี่ดราก้อนกล่าว

เขายึดพื้นฐานและวิธีการทำงานตั้งแต่เริ่มทำงานที่ FourFourTwo ว่าเนื้อหาที่ได้ต้องเป็นออริจินัล แปลกใหม่และไม่ซ้ำ หรือถ้าซ้ำต้องลึกกว่าและดีกว่า เขาบอกว่าช่วงที่ทำงานกับองค์กรสื่อขนาดใหญ่อย่างสยามสปอร์ตและไทยรัฐ ทำให้ไม่มีพื้นที่ให้ปล่อยของหรือได้โดดเด่นมากพอ แต่พออยู่ที่ FourFourTwo ในฐานะหัวหน้าทีมจึงได้สร้างเนื้อหาแปลกใหม่ตามความต้องการ และทำให้ FourFourTwo ในตอนนั้นได้ก้าวข้ามความเป็นสื่อกีฬาดั้งเดิมไปมาก 

 

จุดเริ่มต้นที่ Main Stand

ความเป็น Traditional Football Media ของ FourFourTwo ที่เจาะตลาดกลุ่มคนรักฟุตบอลโดยเฉพาะ ทำให้พี่ดราก้อนเริ่มอยากนำเสนอเนื้อหากีฬาที่อิมแพคต์และเกี่ยวข้องกับคนวงกว้างที่อาจจะไม่ได้สนใจด้านกีฬามากขึ้นด้วย 

โอกาสอีกครั้งก็มาถึงเมื่อรุ่นพี่ของเขา (โรจน์ พุทธคุณ ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมน สแตนด์ ครีเอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด) ชักชวนให้มาทำสื่อกีฬาด้วยกันที่ ‘Main Stand’ โดยพี่ดราก้อน สร้างตั้งใจคอนเซ็ปต์ขึ้นมา คือ เนื้อหากีฬาสำหรับคนที่ไม่ดูกีฬาก็เสพได้ พี่ดราก้อนบอกว่ากีฬาเกี่ยวกับคำว่าไลฟ์สไตล์เสมอ ดังนั้นกีฬาจึงตัดจากไลฟ์สไตล์ของผู้คนไม่ขาด ทำให้ต้องนำเสนอเนื้อหารูปแบบใหม่ในมุมมองที่หลากหลายและเข้าถึงทุกคนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น โอลิมปิกเกมส์ญี่ปุ่นที่ผ่านมาที่โฟกัสประเด็น Soft Power มากขึ้น โดยเชื่อมโยงเรื่องราวการ์ตูนญี่ปุ่นในกับกีฬาและการแข่งขัน

เขาบอกว่านิยามคนกีฬารุ่นเก่าคือถ้าจะทำประเด็นกีฬาอย่าเอามายุ่งกับการเมือง แต่ในความเป็นจริงกีฬาไม่เคยถูกตัดขาดจากการเมืองเลยไม่ว่าประเทศใดก็ตาม และทุกกีฬามีการเมืองเป็นรากฐาน รวมทั้งเกี่ยวพันกับเรื่องสังคม เศรษฐกิจ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนอย่างมาก เขาต้องการสื่อสารว่า “กีฬาอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด” 

“เราเคยถูกตั้งคำถามว่า ทำไมต้องเอาเรื่องกีฬา มาเกี่ยวข้องกับการเมือง จากทั้งคนรอบข้าง รวมถึงแฟนเพจ แต่เพราะในความเป็นจริงแล้ว กีฬาไม่เคยแยกขาดจากการเมือง เราแค่กล้าที่จะเป็นสื่อกีฬา ที่พูดความจริง เล่าความจริง ในทุก ๆ บริบทของสังคม และเรายืนยันอย่างนั้นมาเสมอ น้อง ๆ ในทีมก็อยากให้เป็นแบบนั้น 

“ถ้าเราบอกว่าเราเป็นสื่อที่ Progressive นำเรื่องกีฬามาผูกกับหลากหลายบริบทในสังคม แต่เลือกที่จะไม่ผูกกับการเมือง มันคงไม่ใช่แล้วแหละ ฉะนั้นต่อให้สื่อกีฬาทั่วประเทศ พยายามแยกกีฬาออกจากการเมืองอย่างเด็ดขาด เราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราทำอยู่ เราอยากเป็นสื่อที่ก้าวไปข้างหน้าแหละ ไม่ได้อยากมีแนวคิดแบบเดิม ๆ อันที่จริงเรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้น้อง ๆ ในทีมด้วย ที่ทุกคนต่างซัพพอร์ตเราให้ไม่อ่อนไหว และยึดมั่นทำในสิ่งที่ทำอยู่”  

อาชีพบรรณาธิการ

เขาเล่าให้ฟังว่าการทำคอนเทนต์ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ก็มีวันที่คิดไม่ออกเช่นกัน ถือเป็นธรรมชาติของคนทำงานที่หมดไอเดีย หมดมุก แต่พอถึงจังหวะที่ต้องคิดให้ออกให้ได้ มันจะมาเอง 

อาชีพบรรณาธิการในมุมมองพี่ดราก้อน คือ คนที่วางทิศทางและเป็น Gatekeeper คนสำคัญที่ต้องทำให้เนื้อหาออกมาดีและมีสาระ รวมถึงรู้ว่าจะสามารถทำให้เนื้อหาส่งเสริมต่อสังคมได้ยังไง นอกจากนี้เขายังทำงานโดยที่ไม่ได้วางระบบแบบ Top Down เพื่อให้อิสระกับทุกคนในการสร้างสรรเนื้อหา และได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พร้อมที่จะสลับกันซัพพอร์ตไอเดียซึ่งกันและกัน

 

เป้าหมายต่อไป

เมื่อไม่นานมานี้ Main Stand เปิดตัวในฐานะผู้ผลิตรายการให้ช่อง T-sport โดยพี่ดราก้อนเล่าให้เราฟังว่าปีนี้จะโฟกัสเรื่องขยายธุรกิจมากขึ้น จากที่เป็นผู้ให้บริการด้านสื่อแล้วก็ขยับมาผลิตสื่อในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่นอกเหนือจากออนไลน์ด้วย ปรัชญาคือต้องมีความเป็น Main Stand อยู่ และเนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกับคนวงกว้าง ที่ให้ความรู้ น่าเชื่อถือ สร้างสรรค์ และอินเทรนด์ตลอดเวลาเพื่อให้คนหันมาสนใจ

บทเรียนและคำแนะนำ

พี่ดราก้อนบอกว่าเขาไม่ค่อยชอบการแนะนำใคร เพราะเชื่อว่าทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ๆ ก็มีวิธีคิดและทัศนคติค่อนข้างหลากหลาย มีความกล้าแสดงออก มีวิธีคิดที่สามารถเอาตัวรอดได้ และพัฒนาตัวเองได้เกินความคาดหมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นผู้สื่อข่าว ก็ต้องวางตัว และมองให้ออกว่าอะไรที่ควรนำเสนอ รวมถึงสามารถผลักดัน ส่งเสริมประโยชน์ให้กับตัวเอง และสังคมรอบข้างได้

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights