Christopher Nolan: ผู้กำกับมือทองที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก

เชื่อว่าหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับชื่อของภาพยนตร์อย่าง The Dark Knight, Inception หรือ Dunkirk เป็นอย่างดี เพราะภาพยนตร์เหล่านี้เป็นที่พูดถึงอย่างมากและสามารถกวาดรายได้ทั่วโลกอย่างมหาศาล ผลงานความสำเร็จเหล่านี้ล้วนมีผู้สร้างคนเดียวกัน เขาคนนั้นคือ ‘คริสโตเฟอร์ โนแลน’

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับผู้กำกับมากฝีมือคนนี้กันว่ากว่าจะมาเป็นผู้กำกับระดับโลกอย่างทุกวันนี้ เขาเริ่มต้นจากอะไร 

หนูน้อยโนแลนกับกล้องฟิล์ม

คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) เกิดเมื่อปี 1970 ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีคุณพ่อชาวทำอาชีพเป็นนักเขียนคำโฆษณาและคุณแม่ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 

ในวัยเด็ก โนแลนเป็นเด็กที่มีความสนใจในด้านพฤกษศาสตร์มาก แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อโนแลนในวัย 7 ขวบไปพบกล้องฟิล์ม Super 8 ของคุณพ่อเข้า ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก เขาก็จัดการตั้งกล้องแล้วถ่ายของเล่นของเขา นั่นจึงเป็นภาพยนตร์ที่เขา ‘กำกับ’ เป็นเรื่องแรกก็ว่าได้ 

นอกจากการกำกับแล้ว แน่นอนว่าเขาก็ต้องชอบดูภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน โนแลนเล่าว่าภาพยนตร์ในวัยเด็กที่ให้แรงบันดาลใจกับเขามากที่สุดคือ Blade Runner ของผู้กำกับ ริดลี่ย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) เพราะองค์ประกอบภาพที่แปลกตาและซับซ้อน 

เริ่มกำกับหนัง

หลังออกจากรั้วโรงเรียน โนแลนเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยลอนดอนในสาขาวรรณกรรมอังกฤษซึ่งในขณะเรียนเขาได้รับเลือกให้เป็นประธานชมรมภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัยและได้มีโอกาสทำภาพยนตร์สั้นขณะเรียนเรื่องแรกที่มีชื่อว่า Tarantella ซึ่งได้ทุนจากค่ายหนังเล็กๆ อย่าง Image Union ก่อนที่ภาพยนตร์สั้นเรื่องที่สองอย่าง Larceny จะตามออกมาซึ่งผลงานนี้ได้เข้าชิงรางวัลสาขาหนังสั้นยอดเยี่ยมของงาน Cambridge Film Festival ด้วย

พอผลงานหนังสั้นของเขาเริ่มเป็นที่ประจักษ์ โนแลนจึงเริ่มไอเดียทำภาพยนตร์ยาวครั้งแรกและชักชวนเพื่อนที่มหาลัยเริ่มโปรเจ็คร่วมกันโดยภาพยนตร์เรื่องแรกนี้มีชื่อว่า Following เป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องซับซ้อนและใช้เทคนิคการถ่ายตัดต่อที่แหวกแนวอย่างการตัดฉากสลับหรือลำดับเวลาของเรื่องไม่ได้เรียงกัน โนแลนกับเพื่อนใช้เวลากันราวๆ 1 ปีในการสร้างหนังเรื่องนี้และถ่ายทำกันในช่วงวันหยุดเท่านั้นเพราะวันธรรมดาติดเรียน

Christopher Nolan

Following มีทุนสร้างเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น แต่ได้คำวิจารณ์ไปในทางบวก หลังจากนำไปฉายที่ San Francisco Film Festival โนแลนก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นกับสไตล์การทำภาพยนตร์ที่ซับซ้อนของเขา นั่นจึงทำให้เขาได้รับข้อเสนอจาก Newmarket Films ให้มาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องที่สองของเจ้าตัวอย่าง Memento

โนแลนพัฒนาภาพยนตร์ของเขาให้ซับซ้อนไปอีกขั้นด้วยวิธีการเล่าเรื่องแบบท้ายเรื่องไปต้นเรื่องด้วยภาพสี ส่วนการดำเนินเรื่องแบบปกติใช้ภาพขาวดำ ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคการลำดับภาพที่ใหม่มากจนเรียกได้ว่าโปรเจ็ค Memento นั้นพัฒนาวงการภาพยนตร์ไปอีกขั้นเลยทีเดียว นอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังกลายเป็นกรณีศึกษาของการลำดับภาพที่สถาบันสอนทำภาพยนตร์หลายแห่งอีกด้วย

ผู้กำกับชื่อกระฉ่อนโลก

ถึงภาพยนตร์ที่เขากำกับมาหลายเรื่องจะได้รับคำชื่นชมมากมายจนมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่ภาพยนตร์ที่โนแลนทำส่วนใหญ่นั้นยังคงเป็นหนังคัลท์ เขายังไม่เคยได้ทำภาพยนตร์สเกลใหญ่ที่ต้องใช้เทคนิคอลังการเลย แต่แล้วโอกาสนั้นก็มาถึงเมื่อวอร์เนอร์ บราเธอส์ (Warner Bros) ติดต่อหาโนแลนให้มาคืนชีพภาพยนตร์จากตัวละครยอดฮิตอย่าง ‘แบทแมน’

ไอ้มนุษย์ค้างคาวที่ถูกสร้างโดยโนแลนนั้นเปลี่ยนมุมมองเดิมๆ ของภาพยนตร์แนวฮีโร่ไปอย่างสิ้นเชิง นอกเหนือจากการต่อสู้กับเหล่าร้าย โนแลนยังใส่อารมณ์ดราม่าและความซับซ้อนในแบบฉบับของเขาลงไปในนั้นด้วย นั่นจึงทำให้ภาพยนตร์ตระกูลแบทแมนของโนแลนทั้ง 3 ภาคได้รับคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับกวาดรายได้กว่า 8 หมื่นล้านบาท และยังตราตรึงอยู่ในใจคอภาพยนตร์ฮีโร่จนถึงทุกวันนี้

โนแลนยังคงแสดงความสามารถในการทำภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Inception ภาพยนตร์แนว sci-fi ที่มีการลำดับภาพที่ยอดเยี่ยมและพล็อตเรื่องเหนือจินตนาการสุดๆ จนได้คะแนนในเว็บ IMDB ถึง 8.8 คะแนน หรือจะเป็นภาพยนตร์สงครามโลกอย่าง Dunkirk โนแลนก็พิสูจน์ว่าไม่คณามือเขาเลย เพราะ Dunkirk สามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ด้วย

คริสโตเฟอร์ โนแลน inception

ค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ด้วยฝีมือระดับโลก โนแลนจึงเป็นผู้กำกับหนังที่มีค่าตัวมากที่สุดในโลก วอร์เนอร์ บราเธอส์ ต้องจ่ายค่าจ้างเกือบ 700 ล้านเหรียญเพื่อให้เขามาดูแลโปรเจ็ค Dunkirk เรียกได้ว่าโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่มีคำว่า “กำกับโดย โนแลน” นั้นเป็นการการันตีคุณภาพของภาพยนตร์เรื่องนั้นอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของโนแลนอย่าง TENET จะไม่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้เนื่องจากพิษโควิด-19 แต่คำวิจารณ์ก็ถือว่ายังไปในทางบวกและสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมมาได้ และล่าสุดโนแลนก็ประกาศแล้วว่าจะทำโปรเจกต์ใหม่เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของ เจย์ โรเบิร์ต ออพเพ่นไฮม์เมอร์ (J. Robert Oppenheimer) นักทำระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลก ซึ่งเราน่าจะได้รับชมกันในอนาคต

กุญแจสู่ความสำเร็จ

ความสำเร็จของโนแลนนั้น นอกจากเทคนิคที่สุดแสนอัจฉริยะและความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองแล้ว ความละเอียดคืออีกหนึ่งกุญแจในความสำเร็จของการทำภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่เพียงโนแลนแต่สำหรับผู้กำกับทุกคน พวกเขามีความพิถีพิถันในรายละเอียดยิบย่อยของแต่ละกระบวนการเพื่อให้ได้ภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ความพิถีพิถันของการเป็นผู้กำกับได้เพียงสมัครคอร์ส “The Craft of Filmmaking ถอดความคิดเบื้องหลังหนังพันล้าน” โดยพี่โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้พา ‘ร่างทรง’ ผงาดคว้ารางวัล Best of Bucheon ที่เกาหลีใต้

อ้างอิง https://bit.ly/3uSjKK6 https://bit.ly/3Dl2iRm https://bit.ly/3lmAoOD

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights