อัล แฮร์ริงตัน อดีตนักกีฬา NBA วัย 42 ปี มุ่งมั่นว่าจะทำลายอคติที่มีต่อการบริโภคกัญชา
จุดเริ่มต้นมาจากคุณยาย
เมื่อปลายปี 2014 วิโอลา คุณยายวัย 79 ปีของอัล แฮร์ริงตันมาเยี่ยม เมื่อเขาพบว่าเธอกำลังทานยารักษาหลายตัวสำหรับโรคต้อหิน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เขาบอกกับเธอว่าเขาเพิ่งอ่านเกี่ยวกับการรักษาโรคต้อหินด้วยกัญชา และถามว่าเธอจะลองคิดดูไหม ต้องขอหมายเหตุไว้ก่อนว่านี่คือโคโลราโด ที่ซึ่งกัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2000
แน่นอนว่าช่วงแรกเธอไม่ยอม แต่อัลก็โน้มน้าวเธอให้ลองใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อบรรเทาอาการของโรคต้อหินของเธอ และเมื่ออัลเห็นว่ากัญชาช่วยคุณยายได้ขนาดนี้ ก็ทำให้เขานึกถึงคนอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนที่อาจได้รับประโยชน์จากผลการรักษาของผลิตภัณฑ์กัญชา “นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมศึกษาเรื่องกัญชาในเชิงลึกมากขึ้น” เขากล่าว
Viola จึงถือกำเนิดขึ้นโดยมีผลิตภัณฑ์ตัวแรกเป็นกัญชาสกัดเข้มข้น เพราะคุณยายกังวลว่าบ้านของเธอจะฟุ้งไปด้วยกลิ่นกัญชา
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเงิน
การมองการณ์ไกลและสัญชาตญาณนักธุรกิจของเขาตอบแทนเขามากกว่าที่คิดเพราะในปี 2020 อุตสาหกรรมกัญชาที่ถูกกฎหมายทำเงินกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ มีคนดังมากมายได้เปิดตัวบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับกัญชา ไม่ว่าจะเป็นวิลลี่ เนลสัน สนูปดอกก์ และแม้กระทั่งมาร์ธา สจ๊วตก็ร่วมขบวนนี้ด้วยเช่นกัน แต่ Harrington ยืนกรานว่า วิโอลาไม่ใช่แบรนด์ของคนดังที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการพูดถึงผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย War on Drugs”
ชาวแอฟริกันอเมริกันมีแนวโน้มที่จะถูกจับในข้อหาครอบครองกัญชามากกว่าคนผิวขาว 3.64 เท่า แม้ว่าคนทั้งสองกลุ่มใช้ยาในอัตราที่ใกล้เคียงกัน แต่อัตราการจำคุกของคนผิวดำในข้อหาเสพยานั้นสูงกว่าคนผิวขาวเกือบหกเท่า อัลจึงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น “เราไม่ต้องการนั่งทำเงินเฉยๆ ท่ามกลางคนที่ยังทุกข์ทรมานอยู่” เขากล่าว
แนวคิดดังกล่าวแปรเปลี่ยนเป็นความคิดริเริ่มเพื่อการกุศลที่เรียกว่า Viola Cares ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ที่เคยถูกจับกลับเข้าสู่สังคม โดยทำงานร่วมกับกลุ่มผู้สนับสนุน Root & Rebound ที่เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร นอกจากนี้อัลยังต้องการให้มีกลุ่มคนชายขอบเป็นเจ้าของกิจการในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น เพราะการขาดการเข้าถึงเงินทุนและการเหยียดเชื้อชาติได้กีดกันคนกลุ่มนี้จากการเข้าสู่ตลาดอย่างถูกอัลจึงลั่นวาจาไว้เขาจะสร้างเศรษฐีผิวดำ 100 คนผ่าน Viola Cares ให้ได้
พืชไม่ได้ต้องการแค่เวลาในการเจริญเติบโต แต่ยังต้องการการดูแลด้วยเช่นกัน และในขณะที่เขาดูแลช่วงทศวรรษแรกของบริษัทและมองไปสู่อนาคต แฮร์ริงตันวาดภาพให้ Viola เป็นผู้ช่วยที่ช่วยให้ผู้อื่นในอุตสาหกรรมสามารถหยั่งรากลึกในตัวเองได้
วิโอลาคือชื่อคุณยายของผม นั่นยังคงเป็นแรงผลักดันให้ผมสร้างแบรนด์ที่จะทำให้เธอภาคภูมิใจ
*กัญชา เป็นพืชที่ผ่านการรับรองให้ถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกาบางพื้นที่ อาทิ แคลิฟอร์เนีย เนวาดา และ โคโลราโด และอีก 29 มลรัฐ ยินยอมให้มีการซื้อ-ขาย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
อ้างอิง https://bit.ly/3MgZlXw https://bit.ly/3KoeEfh https://bit.ly/3sG5iWd
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเ…
