Garry Tan: ผู้ลงทุนใน Coinbase ได้ผลตอบแทน 6000 เท่า ภายใน 10 ปี

แกร์รี่ ตัน (Garry Tan) ได้ผลตอบแทน 6,000 เท่าจาก Coinbase
การตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ให้ข้อคิดอะไรกับเขาบ้าง?

Coinbase แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เมื่อ แกร์รี่ ตัน ได้เจอกับผู้ก่อตั้ง Coinbase ไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) และลงเงินลงทุนไปกว่า 300,000 ดอลลาร์ ซึ่งในปัจจุบันหุ้นที่เขาลงทุนไปนั้นมีมูลค่ากว่า 2,400 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ซึ่งเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับแกร์รี่ และในปัจจุบัน Coinbase มีมูลค่าอยู่ที่ 1 แสนล้านดอลลาร์
วันนี้ Career Fact จะมาเล่าถึงเหตุการณ์การตัดสินใจในการลงทุนในครั้งนั้นของ แกร์รี่ ตัน ให้ทุกคนได้อ่านกัน

 

รู้จักกับแกร์รี่

ในปี 2011 แกร์รี่ ตัน ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Initialized Capitol ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในระยะเริ่มต้นที่กำลังมองหาสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ และก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งของ Posterous และ Posthaven (แพลตฟอร์มเว็บบล็อก) ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เขายังเป็นหุ้นส่วนที่ Y Combinator ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2015

 

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น

ในเดือนมีนาคม ปี 2012 ไบรอัน อาร์มสตรอง โอน 0.05 บิตคอยน์ให้กับแกร์รี่ผ่าน Bitbank ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพใหม่ของไบรอัน (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Coinbase) ตอนนั้นบิตคอยน์มีมูลค่าตลาดรวมต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ปัจจุบันบิตคอยน์มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้นคือไบรอันโอนเงินเพียง 23 เซ็นต์ให้กับแกร์รี่ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าหมื่นเท่าในปัจจุบัน

หลังจากนั้นแกร์รี่ได้รับอีเมลจากไบรอันว่าโปรแกรมต้นแบบที่เขาได้เขียนโค้ดอย่างหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมากำลังจะเปิดใช้งานออนไลน์ เขาถามแกร์รี่ว่า “คุณมีคำแนะนำในการหาผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไหม?” เผื่อว่าแกร์รี่จะรู้จักใครที่มีความสนใจในด้านนี้ แกร์รี่จึงตอบกลับไปว่า “ส่วนที่ยากที่สุดในการตามหาผู้ร่วมก็ตั้งก็คือคุณเจอผู้คนที่คุณอยากทำงานด้วยอยู่แล้ว แต่พวกเขาอาจกำลังสนใจในสิ่งอื่นอยู่ และการเป็นผู้ก่อตั้งที่ดีได้คุณจะต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำจะเติบโตไปได้มากแค่ไหน คุณต้องถ่ายทอดความเชื่อของคุณผ่านตลาดและสินค้าให้ได้ คุณได้รู้จักผู้ร่วมก่อตั้งของคุณแล้วแน่ๆ แต่คุณทั้งคู่แค่ยังไม่รู้ตัว”

 

ในยุคที่ผู้คนยังมองไม่เห็นบิตคอยน์

แกร์รี่ได้รู้จากบิตคอยน์ผ่านทาง Hacker News ซึ่งเขาเป็นคนแรกๆ ที่พูดถึงบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2009 ผู้คนในตอนนั้นต่างคอมเมนต์ไปในทางเดียวกันว่า “ก็เจ๋งดีหนิ” ไม่ก็ “อาจจะใช้ได้” แต่ยังคงไม่เข้าใจคอนเซปต์ของบิตคอยน์และไม่มั่นใจในบิตคอยน์ และนั่นเป็นจุดที่ทำให้แกร์รี่ประทับใจในตัวไบรอันเป็นอย่างมากที่เขาเข้าใจและกล้าที่จะเริ่มต้นในสิ่งที่ผู้คนต่างตั้งคำถามและมองไม่เห็นถึงอนาคตของบิตคอยน์ในตอนนั้น

 

แกร์รี่ตอบตกลง

สิ่งที่ยากกว่าการทำให้ผู้ร่วมก่อตั้งเชื่อมั่นในตัวคุณคือการทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น นักลงทุนหลายๆ คนปฏิเสธการลงทุนใน Coinbase ในขณะที่แกร์รี่ตอบตกลง ส่วนเหตุผลที่เขาตัดสินใจอย่างนั้นข้อแรกคือแกร์รี่มองเห็นถึงปัญหาในการซื้อขายบิตคอยน์ เขาเคยลองซื้อบิตคอยน์ผ่านเว็บ Mt.Gox และมันเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก ทั้งดีไซน์เว็บที่ไม่ดีและใช้งานยาก เขารู้ในทันทีว่าถ้าทุกคนต้องซื้อขายบิตคอยน์ผ่านเว็บนี้บิตคอยน์ไม่มีทางเติบโตได้อย่างแน่นอน

เหตุผลต่อมาคือแกร์รี่มีความคิดว่าในอนาคตเงินกระดาษอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะเมื่อปี 2005 แกร์รี่เคยทำงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ให้กับกองทุนป้องกันความเสี่ยงของ ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) ในบริษัท Clarium Capital Management และหนึ่งในหนังสือที่บริษัทให้ทุกคนอ่านคือ “The Dollar Crisis” ของ ริชาร์ด ดันแคน (Richard Duncan) ที่เล่าถึงเหตุการณ์ในปี 1971 ซึ่งขณะนั้น ริชาร์ด นิกสัก (Richard Nixon) เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เขาได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์กับทองคำ ทำให้เงินดอลลาร์กลายเป็นเงินกระดาษที่สามารถพิมพ์ออกมาเพิ่มเท่าไรก็ได้ตามต้องการ และในปัจจุบัน 25% ของเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบในทุกๆ วันล้วนเป็นเงินที่ถูกพิมพ์ในปีที่ผ่านมา (ปี 2020) แกร์รี่จึงมองว่าบิตคอยน์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และเขารู้สึกพร้อมมากๆ กับการมาของบิตคอยน์

เหตุผลสุดท้ายคือไบรอันเป็นผู้สร้าง แกร์รี่รักการลงทุนกับผู้ที่สร้างสิ่งใหม่ๆ เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว เขาคิดว่าการที่ไบรอันสร้าง Coinbase เวอร์ชันแรกขึ้นมาได้นั้นเป็นเรื่องที่เจ๋งมาก ถ้ามองธนาคารเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยในการเก็บรักษาเงินกระดาษ การปกป้องเงินบนอินเทอร์เน็ตก็คงต้องอาศัยวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่ดีและระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามากพอ แกร์รี่เชื่อในตัวไบรอันเพราะไบรอันเคยเป็นวิศวกรและเป็นหัวหน้าฝ่ายต่อต้านการฉ้อโกงที่ Airbnb (ซึ่งเพิ่งจะกลายเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าถึงพันล้าน) และฝ่ายต่อต้านการฉ้อโกงของ Airbnb นั้นเปรียบเหมือนหน่วยรบพิเศษที่จะต้องเจอกับแฮ็กเกอร์ในทุกๆ วัน แกร์รี่จึงมองว่าไบรอันมีประสบการณ์ที่ดีกับการจัดการกับแฮ็กเกอร์มาก่อน และการที่ไบรอันก้าวออกมาจากงานที่มีความก้าวหน้ามากๆ เพื่อมาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าอนาคตในโลกการเงินจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับแกร์รี่

ในที่สุดแกร์รี่จึงตัดสินใจให้เงินทุนจำนวน 300,000 ดอลลาร์กับ Coinbase และ 8 ปีต่อมาหลังจากที่หุ้นของ Coinbase ลิสต์เข้าตลาด Nasdaq มูลค่าเงินลงทุนของใน Coinbase ของแกร์รี่จำนวน 300,000 ดอลลาร์ ในตอนนั้นได้กลายเป็น 2,400 ล้านดอลลาร์ในวันนี้

 

สิ่งที่แกร์รี่ได้เรียนรู้และอยากแบ่งปัน

“Be contrarian and right.” กล้าที่จะมองในมุมต่าง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นความกล้าและมุมมองที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรหรือไอเดียที่บ้าบอแค่ไหนก็ตาม ทุกไอเดียสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วไอเดียเหล่านั้นจะมีวันที่ได้เฉิดฉายเสมอ ถ้านั่นเป็นไอเดียที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากพอ

“Be a builder.” เป็นนักสร้าง ยิ่งคุณทำสิ่งต่างๆ ได้มากท่าไร คุณยิ่งลดความเป็นไปได้ที่จะเสียโอกาสในชีวิตได้มากเท่านั้น ผู้คนจะเริ่มเห็นถึงตัวตนของคุณ พวกเขาอาจให้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น เข้ามาทำงานด้วยกัน หรือซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ

เรื่องสุดท้ายคือการเขียนอีเมลสำคัญมาก การที่ไบรอันโอนบิตคอยน์เพียงน้อยนิดให้แกร์รี่ดึงดูดความสนใจของเขาได้ แม้จะมีมูลค่าเพียง 23 เซ็นต์ในตอนนั้น แต่นั่นก็เป็นเงินฟรีที่ทำให้แกร์รี่สนใจในอีเมลนั้น และแกร์รี่รู้ได้ทันที่ว่าไบรอันจริงจังมากแค่ไหนกับการสร้าง Coinbase นอกจากนั้นแกร์รี่ยังรู้สึกโชคดีมากที่ได้รับอีเมลนั้นจากไบรอัน ได้เจอกับไบรอัน จนได้มีโอกาสลงทุนใน Coinbase และด้วยอีเมลฉบับเดียวนั้นก็ได้เปลี่ยนชีวิตการลงทุนของแกร์รี่ไปตลอดกาล

 

อ้างอิง
https://bit.ly/3qlkFjG

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights