ไม่ว่าจะทำงานตำแหน่งอะไร ทักษะการนำเสนองานก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เราก้าวหน้าในฐานะพนักงานออฟฟิศ
ทำไมทักษะการนำเสนอจึงสำคัญ?
ในกรณีที่พรีเซนต์งานให้คนในบริษัทฟัง ถ้าผู้นำเสนอสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจทำให้องค์กรได้ไอเดียใหม่ๆ ไปพัฒนาการทำงานขององค์กรได้ ส่วนในกรณีที่พรีเซนต์ให้คนนอกอย่างลูกค้าฟัง ก็จะมีความกดดันเพิ่มขึ้นมา บริษัทจึงต้องเลือกคนที่จะไปนำเสนออย่างระมัดระวัง และแน่นอนว่าถ้าคนที่ถูกเลือกทำได้ดี ก็จะกลายเป็นผลงานสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองจนอาจเตะตาระดับผู้บริหาร เมื่อเป็นที่จดจำ การจะไต่ขึ้นไปบนระดับที่สูงขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ
เคล็ดลับการนำเสนอให้ปัง
ทุกคนน่าจะเคยได้ฟังการพรีเซนต์มาไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้งในชีวิต แต่คงไม่ใช่ทุกครั้งที่จัดว่าเป็นการพรีเซนต์ที่ดี ลองมาดูกันว่าการพรีเซนต์ที่ดี ชวนติดตาม และทำให้คนฟังประทับใจต้องทำอย่างไร
เตรียมตัวและซ้อมพูดล่วงหน้า
จริงอยู่ว่าบนโลกนี้มีคนที่พูดเก่งในระดับที่ให้ด้นสดก็ยังไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านการพูดเหมือนคนเหล่านั้น การเตรียมตัวและฝึกฝนจนคล่องก่อนพรีเซนต์ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะการออกเสียงพูดออกมาดังๆ สัก 3 รอบจะทำให้เรารู้จังหวะว่าควรพูดอย่างไรให้ออกมาธรรมชาติ ไม่ช้า ไม่เร็วเกินไป
มีจุดโฟกัส
ไม่มีใครอยากฟังการพูดพล่ามอย่างไร้จุดหมาย กรณีแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้พูดตามใจตัวเองเกินไปและไม่มีการวางโครงสร้างการนำเสนอมาก่อน เราจึงต้องปรับจุดประสงค์การพูดของเราให้ตรงกับสิ่งที่ผู้ฟังสนใจ
มีความกระตือรือร้น
ถ้าแม้กระทั่งตัวคนพูดเองยังรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไม่น่าสนใจ จะคาดหวังให้คนอื่นรู้สึกสนใจก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะงั้นการที่เราแสดงออกว่าเราอยากพรีเซนต์ อยากนำเสนอเนื้อหาที่เรากำลังจะพูดออกมาจึงสำคัญ แทนที่จะโฟกัสกับความกังวล ลองเปลี่ยนอะดรีนาลีนที่ทำให้เรากังวลเป็นพลังในการสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ฟังแทนดีกว่า
อย่าให้สไลด์กลายเป็นนักแสดงนำ
การพรีเซนต์กับสไลด์พาวเวอร์พอยท์เป็นของคู่กัน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ควรปล่อยให้สไลด์กลายเป็น ‘ผู้สื่อสาร’ แทนตัวคนพูดอย่างเราเอง เราต้องพยายามจำกัดไม่ให้ตัวหนังสือในสไลด์เยอะเกินไป และที่สำคัญคือห้ามอ่านจากสไลด์โดยตรงเด็ดขาด เพราะถ้าจะทำแบบนั้น การส่งไฟล์ไปให้ผู้ฟังอ่านโดยตรงก็คงไม่ได้ต่างกันเท่าไร
รีบดึงความสนใจตั้งแต่เริ่ม
ผู้ฟังทุกคนย่อมอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องมาฟังเราพรีเซนต์ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราควรทำเป็นอย่างแรกคือการบอกเหตุผลว่าทำไมพรีเซนต์ของเราถึงคู่ควรแก่การฟัง
การพูดว่าไม่รู้นั้นไม่ใช่เรื่องผิด
สิ่งหนึ่งที่ทำให้การพรีเซนต์เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับหลายคนก็คือช่วงตอบคำถาม แต่ความจริงแล้วการยอมรับตามตรงว่าไม่รู้นั้นไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแค่เราต้องให้เหตุผลด้วยว่าทำไมเราถึงไม่รู้ พร้อมสัญญาว่าจะหาคำตอบมาให้ในภายหลัง
เป็นตัวของตัวเอง
ยิ่งเราพยายามเป็นคนอื่น คนฟังก็ยิ่งดูออกและมองว่าเราดูไม่จริงใจเท่าไร สิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้ท่าทางของเราเวลาพูดเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะนอกจากการเป็นตัวของตัวเองจะเสริมความมั่นใจให้กับตัวเราเองแล้วยังทำให้คนฟังรู้สึกเข้าถึงเราได้มากกว่าการพยายามเป็นคนอื่นด้วย
สำหรับคนที่ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ การต้องมาพูดต่อหน้าคนหลายคนโดยที่ทุกความสนใจพุ่งเข้าหาตัวเองคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แทนที่จะมองว่าการพรีเซนต์แต่ละครั้งต้องออกมาสมบูรณ์แบบ ลองมองว่าทุกการพรีเซนต์คือพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เราพัฒนาทักษะการพูดให้ดีขึ้น วันหนึ่งคุณก็อาจจะกลายเป็นคนที่ใครก็นึกถึงเมื่อต้องพรีเซนต์งานได้เหมือนกัน
เรียนรู้ทริกการพรีเซนต์ให้ปังจนเตะตาหัวหน้าไปกับคุณฐากร ปิยะพันธ์ ผู้เข้าใจความสัมพันธ์ของพีระมิดองค์กรได้เป็นอย่างดีจากประสบการณ์มากกว่า 20 ปีที่ไต่เต้าจากพนักงานชั้นรากฐานสู่ยอดพีระมิดในคอร์ส Employee Survival Guide “อยู่ให้เป็น เอาตัวให้รอด จากศูนย์ถึง CEO”
อ้างอิง
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…