จากจุดเริ่มต้นของความฝันที่อยากออกแบบร้านอาหารให้พ่อกับแม่ตั้งแต่วัยเด็ก สู่การเลือกเส้นทางเรียนต่อด้านสถาปนิก ปัจจุบันเขาคือนักออกแบบผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบร้านชื่อดังมากมาย อาทิ Wine Republic ทองหล่อ, Roast และ Nana Coffee Roaster
นิยามสั้นๆ ที่เขาใช้เรียกตัวเองคือ ‘นักออกแบบ’ เพราะเขาเชื่อว่า “ทุกอย่างทำงานด้วยกัน ไม่แยกจากกัน และคนทำงานทุกคนคือ ดีไซเนอร์ ทั้งหมด”
วันนี้ Career Fact จะมาพูดคุยกับ ‘พี่โต’ ศุภรัตน์ ชินะถาวร Founder & Design Director แห่ง party / space / design หรือ p / s / d กับเส้นทางอาชีพ ‘นักออกแบบ’ ที่ไม่ง่ายและ ติดตามเรื่องราวชีวิตของเขาได้ที่นี่
ฝันที่เติบโตในร้านอาหาร
พี่โตเป็นเด็กต่างจังหวัด เขาเติบโตที่เชียงใหม่มาพร้อมกับร้านอาหารของคุณพ่อคุณแม่ เขามีหน้าที่ช่วยเสิร์ฟ จดเมนูรับออเดอร์ ล้างจาน ฯลฯ แต่สไตล์ร้านไม่เหมือนกับภาพในหัว แม้ร้านจะขายดีแต่พี่โตรู้สึกว่าไม่สวย ไม่เท่ จึงขอพ่อกับแม่ว่าอยากออกแบบเมนูและร้านให้ใหม่ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาตั้งใจว่าวันหนึ่งจะออกแบบร้านอาหารให้พ่อกับแม่ให้ได้และเลือกเรียนต่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสานต่อฝันในการเป็นสถาปนิก
จุดเริ่มต้นการเป็นนักออกแบบ
หลังจากมีโอกาสได้เห็นงานสถาปนิกที่กรุงเทพฯ เขาก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจและตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อฝึกงานเป็นสถาปนิกกับบริษัท DBALP ของคุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่เขายกให้เป็นอาจารย์คนแรกที่ทำให้มีทุกวันนี้ ทว่าพี่โตกลับไม่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสถาปนิกมากดังที่หวัง แต่เขาก็ตั้งใจว่าหางานทำในกรุงเทพให้ได้
ทุกอย่างทำงานด้วยกัน ไม่แยกจากกัน คนทำงานเป็นดีไซเนอร์ทั้งหมด
พอรู้ว่าตัวเองชอบงานอื่นด้วย และสถาปนิกไม่จำเป็นต้องทำบ้านอย่างเดียว พี่โตเลยผันตัวเองมาทำงานออกแบบกราฟิก และเคยมีโอกาสทำงานให้บริษัทโฆษณาด้วย แต่ถึงแม้จะอยู่บริษัทใหญ่เขาก็ยังรู้สึกว่างานโฆษณาเป็นผลงานที่คนลืมง่าย และไม่ใช่ทางที่อยากทำไปตลอด จึงเลือกลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง
พอเป็นหนึ่งคนในรถไฟขบวนใหญ่ ถ้าไม่ได้อยากจะไปจุดหมายเดียวกับขบวนนั้น ก็ต้องเลือกออกจากขบวนนั้น
พี่โตกล่าวถึงเหตุผลที่ลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง
โฟกัสร้านอาหาร
“พี่เกิดและโตในร้านอาหาร ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของร้านอาหารมากกว่าคนอื่น” ประโยคดังกล่าวเป็นเหมือนความชัดเจนที่หล่อหลอมให้พี่โตตัดสินใจเปิดบริษัทใหม่ แม้จะมีงานออกแบบด้านอื่น แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าจุดเด่นและผลงานของพี่โตล้วนเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงคุ้นหูทั้งนั้น
บางครั้งการอดทนรอคืองานอย่างหนึ่ง… ความตั้งใจของพี่โตคือการได้ออกแบบร้านอาหาร แม้ในช่วงแรกจะไม่มีงานและรู้สึกท้อจนอยากยอมแพ้ แต่พี่โตก็ได้คำแนะนำจากรุ่นพี่คนหนึ่งว่าให้รอโอกาสต่อไป เพราะคนที่เป็นมืออาชีพจะรอสู้ในสังเวียนที่ตัวเองชนะเท่านั้น และในที่สุดการรอคอยราว 2 ปีกว่าก็ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าเพราะเริ่มมีงานเข้ามาหลายโปรเจกต์ ทำให้เริ่มเก็บพอร์ต และมีรายได้เข้ามามากขึ้น
งานออกแบบร้านอาหารแรกของพี่โตคือร้าน Wine Republic ทองหล่อ ด้วยโจทย์สั้นๆ คือ “ออกแบบไม่สวยไม่เป็นไร แต่อย่าทำร้านเจ๊ง” ที่ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้คุยแค่เรื่องดีไซน์ แต่คือธุรกิจทั้งหมด พี่โตจึงออกแบบตั้งแต่สินค้า อุปกรณ์ในร้าน บรรยากาศ และประสบการณ์ของลูกค้าด้วย นอกจากนี้ผลงานออกแบบร้านอาหารของพี่โตที่เราๆ น่าจะเคยได้ยินก็มีตั้งแต่ Too Fast Too Sleep, Kub Kao Kub Pla, SHUGAA, IBerry รวมถึงร้านกาแฟอย่าง Bottomless และ Nana Coffee Roaster ด้วย
งานออกแบบเป็นเหมือนยอดภูเขา ที่เหลือเป็นเรื่องธุรกิจและโปรดักต์
เขากล่าวเสริม
ประสบการณ์ของร้านทำให้แตกต่าง
พี่โตอธิบายให้เราฟังว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในร้านอาหาร คือ การออกแบบประสบการณ์ และทุกอย่างมีผลต่อร้านไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือกลิ่น ดังนั้นเรื่องของการออกแบบประสบการณ์ก็ยังจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากนี้ไปอีก 4-5 ปีข้างหน้าด้วย เขาจึงแนะนำว่าต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบประสบการณ์ ยิ่งในช่วงที่โควิดเข้ามากลายเป็นฟิลเตอร์ให้คัดสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป เขาบอกว่าร้านอาหารที่จะรอดได้ต้องบรรยากาศดี หรืออย่างร้านกาแฟก็ต้องเป็นร้านที่มีบาริสต้าดี และกาแฟดี
Party Space Design
ช่วง 5 ปีแรก ของการตั้งบริษัท party / space / design หรือ p / s / d พี่โตบอกว่าเขาไม่ได้เดินหาลูกค้า งานส่วนใหญ่ได้มาจากการแนะนำแบบปากต่อปาก เพราะการทำงานเหมือนเป็นเพื่อนทำให้คนชอบ นอกจากนี้งานออกแบบของเขายังครอบคลุมถึงเรื่องทำแบรนดิ้ง คุมก่อสร้าง ทำโปรดักต์ทั้งหมดด้วย
มาที่ p/s/d คุยทีมเดียวจบ ไม่ต้องคุยหลายทีม
พี่โตกล่าวถึงความตั้งใจ
นอกจากนี้การจัดการคนในทีมก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ พี่โตบอกว่าตัวเขาเองผ่านมาหลายยุคตั้งแต่เปิดตำราช่วงแรกเริ่มบริษัทที่ดูแลกันแบบครอบครัว แต่จริงๆ เป็นสิ่งที่ไม่ดีเพราะบาลานซ์เสีย เขาจึงเลือกบริหารให้แบบเป็นทีม เพราะทีมเวิร์คสำคัญ ประโยคที่พี่โตเน้นกับน้องๆ ในทีมคือ “อย่าบ้างาน นอกเวลางานไปใช้เวลาของตัวเอง ไปหาแรงบันดาลใจด้วย”
นักออกแบบ
เราขอให้พี่โตอธิบายและจำแนกอาชีพ ‘นักออกแบบ’ เท่าที่จะช่วยให้เห็นภาพที่สุดสำหรับคนที่สนใจหรืออยากเดินเส้นทางนี้ โดยพี่โตเริ่มต้นเล่าว่านักออกแบบมีตั้งแต่ออกแบบสเกลใหญ่จนถึงสเกลเล็กตั้งแต่นักออกแบบผังเมือง นักออกแบบ Landscape สถาปนิก นักออกแบบภายใน นักออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงกราฟิกดีไซเนอร์ เขาเสริมว่าแบรนดิ้งอยู่กับทุกการออกแบบ และหลายการออกแบบเริ่มต้นมาจากกราฟิกดีไซน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเซ้นส์ของกราฟิกหมดเลย
เป้าหมายต่อไป
ปัจจุบันพี่โตยังทำงานออกแบบร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเราถามถึงภาพในอนาคตและเป้าหมายต่อไป พี่โตบอกว่าเขาอยากให้การออกแบบร้านอาหารอยู่ในธีสิสของน้องๆ ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้เขาช่วยผลักดันกับ TIDA (สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย) อยู่ด้วย และเขาหวังว่าอนาคตสายตาของนักออกแบบระดับโลกจะมองมาที่เมืองไทยมากขึ้นเพราะมีคนออกแบบร้านอาหารและนักออกแบบที่เก่งเยอะมาก
พี่โตกับสิ่งที่อยากส่งต่อถึงคนรุ่นใหม่
อย่าสะดุดหินก้อนเล็ก ใจเย็น มีสติ
พี่โตฝากว่าในการทำงานออกแบบและด้านอื่น ‘สติ’ เป็นสิ่งที่ต้องมีเพราะคนยุคนี้พลาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หากรู้จักใจเย็นและดูสถานการณ์ให้ดีขึ้นอีกนิดก็จะเป็นเรื่องดีกับตัวเองและคนอื่น อย่างโควิดเป็นโอกาสที่นักออกแบบหลายคนได้พักมากขึ้น มีเวลามากขึ้น การทำอะไรให้ช้าลงนิดหนึ่งจะช่วยให้เห็นมุมมองและโอกาสที่กว้างขึ้นได้
นอกจากนี้การฝึกเรื่อง “Think Outside The Box” หรือ คิดนอกกรอบ ก็สำคัญไม่ใช่แค่ในอาชีพนักออกแบบเท่านั้น เขาทิ้งท้ายว่าสิ่งหนึ่งที่น่าอิจฉาคือคนรุ่นใหม่เกิดมาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยงานได้มาก ดังนั้นหากสามารถต่อยอดความรู้และผสมผสานเทคโนโลยีมาช่วย ก็จะทำให้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์
FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…