ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง: จากคนเรียนไม่ตรงสาย สู่อาจารย์ด้านการตลาด

Home » Career Fact » Interview » ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง: จากคนเรียนไม่ตรงสาย สู่อาจารย์ด้านการตลาด

จากคนเรียนจบไม่ตรงสายจนต้องศึกษาทุกอย่างด้วยตัวเอง สู่อดีตผู้บริหารด้านการตลาดดิจิทัลของบริษัทโทรคมนาคมอันดับต้นๆ ของประเทศไทยและผู้แต่งหนังสือด้านการตลาดทั้งเรื่อง Digital Marketing และ Content Marketing 

วันนี้ Career Fact จะพาทุกคนมาพูดคุยกับ ‘พี่แก่’ ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง ผู้ก่อตั้ง dots academy และเจ้าของบล็อก nuttaputch.com กับเรื่องราวชีวิตและการทำงานของเขากัน ติดตามได้ที่นี่

เด็กการละคร

พี่แก่โตมาพร้อมความฝันว่าอยากเป็นวิศวกร แต่ความฝันถึงคราวพบจุดเปลี่ยนเมื่อเขาได้เขียนบทให้ละครเวทีของโรงเรียนตอนอยู่ชั้น ม.ปลายแล้วรู้สึกชอบเขาค้นพบตัวเองว่าอยากอยู่ในบรรยากาศละครเวที รวมถึงอยากเป็นนักเขียน ทำให้เขาเลือกสอบเอ็นทรานซ์เข้าเอกศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่แก่เล่าให้ฟังว่าสิ่งที่เขาเรียนรู้ตลอด 4 ปีนั้นคือเข้าใจเรื่องการจัดการ จิตวิทยา วินัย เรียนรู้จากการทำงาน และเขาได้เรียนรู้การเป็นมนุษย์ผ่านละคร เข้าใจเรื่องมนุษย์ศาสตร์มาก เพราะละครมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก จนถึงวันนี้แม้ไม่ได้ทำงานตรงสายกับการละครแต่เขาบอกว่ายังรักและชื่นชอบเสมอ

เรียนรู้  ล้มเหลว หลากหลาย

พอเรียนจบ พี่แก่ทำงานเป็นครีเอทีฟให้รายการโทรทัศน์ เป็นฟรีแลนซ์ และทำงาน Project Management อยู่ช่วงสั้นๆ ในตอนนั้นพี่แก่ไม่ถนัดและไม่เข้าใจเรื่องการตลาดเลย แต่สำหรับเขาแล้วถ้าจะทำงานอะไรสักอย่าง ต้องรู้เรื่องนั้นเป็นอย่างดี เขาจึงค้นคว้าความรู้และอ่านหนังสือจำนวนมาก

พอเคยอ่านหนังสือตอนเรียนอักษรฯ เยอะ การหาความรู้มันกลายเป็นธรรมชาติไปเลย

เขากล่าวเสริมถึงนิสัยชอบการเรียนรู้ของเขา

พี่แก่ย้ายงานไปเป็นผู้ช่วยท่านทูตพาณิชย์สิงคโปร์อยู่ 2 ปี โดยมีหน้าที่หลักคือติดตามทูตฯ ประสบการณ์ตอนนั้นทำให้เขาเห็นทักษะการเจรจา ซึมซับวิธีคิดจากคนทำงานระดับสูงอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะขยับไปทำงานเป็น Project Manager อยู่ที่ IBM ประเทศไทย และย้ายไปทำงานกับค่าย RS อยู่ฝั่งดูแลโปรเจกต์ฝ่าย Digital Marketing ซึ่งพี่แก่บอกว่าเขาล้มเหลวกับการเป็นผู้จัดการครั้งแรกเพราะไม่เคยเป็นเป็นหัวหน้าคนมาก่อน และไม่เข้าใจเรื่องการบริหารคน “ตอนนั้นเฟลมาก แต่เป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ว่าเราขาดอะไรบ้าง” เขากล่าว

นอกจากนี้เขายังเป็นนักเขียนตัวยงเพราะเคยเขียนคอลัมน์วิจารณ์ละครในนิตยสาร a day และเคยเป็นคอลัมน์นิสต์ให้ Thairath Online ด้วย นอกจากนี้ยังทำงานรายการทีวีช่วงสั้นๆ คือรายการ Digilife TV ซึ่งหากใครเคยติดตามก็คงเคยเห็นว่าเขาเคยเป็นพิธีกรคู่กับพี่อู๋ spin9 มาแล้ว 

ความมั่นคงที่แท้จริงคือความสามารถในตัวเรา

ในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต 3G หรือ 4G คนไทยทั่วไปยังไม่รู้จักคำว่าสมาร์ทโฟน และเฟสบุ๊คก็เพิ่งเปิดตัวใหม่ๆ เป็นช่วงที่พี่แก่เริ่มเล่นและศึกษาเฟสบุ๊ค รวมถึงเริ่มต้นเขียนบล็อกของตัวเองขึ้นมาในชื่อ nuttaputch.com 

ช่วงนั้นเขาทำงานกับเอเจนซี่โฆษณาในตำแหน่ง Head of Social Media Content ที่ Edge Asia ซึ่งทำให้เขาได้เจอลูกค้าหลายประเภทในยุคเริ่มต้นที่หลายๆ แบรนด์เพิ่งเริ่มทำเพจเฟสบุ๊ค ก่อนจะไปดูแลการตลาดดิจิทัลในตำแหน่ง Head of Online Marketing ที่ dtac ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำบล็อกและเริ่มต้นทำ dots.academy ที่ดูเรื่อง HR และการพัฒนาคน และเขียนหนังสือสอนเรื่อง Content marketing 

ความมั่นคงในบริษัทไม่มีจริง แต่ความมั่นคงที่แท้จริงคือความสามารถในตัวเราเอง ถ้ามีความสามารถ ไปไหนก็อยู่ได้

พี่แก่บอกกับเราถึงช่วงเวลาที่ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจของตัวเองว่า

เขาเล่าว่าการออกจาก dtac ก็เริ่มต้นทำ dots.academy มาบ้างแล้ว พอลาออกจึงทำต่อได้ทันทีเพราะมีสิ่งที่รองรับ ดังนั้นจึงไม่ใช่การตัดสินใจแบบเสี่ยงมากเกินไป

การสอนคืออีกความฝัน

สิ่งหนึ่งที่พี่แก่รู้ตัวมาตลอดคือเขาอยากเป็นนักเขียน และเป็นอาจารย์ แม้เราจะถามว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นครูส่งผลต่อความฝันนี้หรือไม่ แต่พี่แก่บอกว่าอาจจะใช่ แต่ว่าอาจารย์ที่เคยสอนตอนเรียนการละครก็เป็นอีกส่วนที่ผลักดันจุดนี้ด้วยเช่นกัน

ครูเป็นเหมือนต้นแบบให้ผมอยากเป็นครู เพราะผมเห็นว่าครูมันเปลี่ยนชีวิตคนได้

เขากล่าว

พี่แก่จึงตั้งใจสอนเรื่องการตลาดดิจิทัล และเปิดคลาสเรียน ทำเสาร์อาทิตย์รับบรรยาย ตั้งแต่ตอนอยู่ช่วง dtac

ช่วยคนทำงานด้วย dots.academy

“เรื่อง HR สำคัญมากที่สุด ถ้าคุณไม่บริหารพนักงาน บริษัทอาจจะพังได้” พี่แก่บอกให้เราฟังถึงความคิดและความสำคัญที่เขาเริ่มต้นทำ dots.academy ขึ้นมา  เขาอธิบายว่า dots.academy เป็นสถาบันที่ช่วยทำ Training ด้านการตลาดดิจิทัลรวมทั้งการเป็นที่ปรึกษาการตลาดแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งจะมีคอร์สเทรนนิ่งแทบทุกเดือน โดยหลักของ dots.academy คือ ลูกค้าสำคัญสุด

ปัญหาที่ทำให้นักการตลาดมีปัญหา คือเราถือตำราเยอะ แต่เราไม่เข้าใจแก่นของมัน

พี่แก่กล่าวถึงปัญหาของนักการตลาด

พอออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเองแล้ว เขาแนะนำว่าสิ่งสำคัญคือทำธุรกิจให้เล็กและเบา เวลาเจอปัญหาจะแกว่งน้อย เพราะเป็นเจ้าของธุรกิจมีโจทย์ใหม่ให้แก้ตลอดเวลา และปัจจุบันคนทำงานธุรกิจและการตลาดต้องให้ความสำคัญกับการตอบสนองลูกค้าให้ดีที่สุด ต้องรู้ปัญหาของลูกค้า และวิธีแก้ไขด้วย 

เพราะโลกซับซ้อนการตลาดจึงซับซ้อน

เราคุยกับพี่แก่ถึงโลกการตลาดและธุรกิจในทุกวันนี้ ซึ่งพี่แก่แชร์ไอเดียให้เราฟังอย่างสนุกว่า ปัจจุบัน Complex Problem Solving Skills จำเป็นมาก เพราะโลกวันนี้ซับซ้อนขึ้นมาก รวมถึงมีปัจจัยเยอะมาก ทำให้หลายๆ เรื่องไม่สามารถใช้วิธีเดียว หรือตำราเดียว แก้ไขปัญหาทุกอย่างได้

มาร์เก็ตติ้งเหมือนทำอาหาร ต้องลองผิดลองถูกเพื่อจะรู้ว่าแบบไหนถึงเวิร์กหรืออร่อย

‘แก่’ ณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง

ปัญหาที่พี่แก่เจอในการทำเทรนนิ่งคือ หลายคนชอบถามสูตรลับหรือสูตรสำเร็จในเวลาอันสั้น โดยพยายามจะแก้ปัญหาที่เจอเอาประสบการณ์ให้จบเพียงหนึ่งวัน แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ “คนเราชอบฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วน มากกว่ายอมสละเวลาที่จะเรียนรู้และสั่งสมความรู้” เขากล่าว 

สิ่งที่อยากฝากถึงคนทุกรุ่น

สิ่งที่พี่แก่แนะนำคืออย่าเป็นคนที่ “รู้กลางๆ อย่างกลวงๆ พื้นฐานไม่แน่น” แต่ควรฝึกฝนอย่างชำนาญและรู้ให้กระจ่างเข้าใจอย่างแท้จริง อีกสิ่งที่เขาเรียนรู้ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีในวงการธุรกิจคือคนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีพื้นฐานแน่นมากก่อนจะต่อยอดได้

นอกจากนี้การที่มีวัตถุดิบในชีวิตเยอะ มี ‘จุด’ เยอะ ทำให้สามารถต่อยอดไปได้หลายทาง เหมือนกับประโยคอมตะ “Connect the dots” ของสตีฟ จ็อบส์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ dots.academy ด้วย พี่แก่บอกว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคนมี ‘จุด’ น้อยเพราะคิดว่าตัวเองรู้แล้ว

บางทีมันตอบไม่ได้หรอกว่าชีวิตจะไปทางไหนบ้าง แต่ถ้าเราได้ลองทำหลายๆ สิ่ง มันก็จะค่อยๆ ขยายตัวไปจนเราเห็นเอง

พี่แก่ทิ้งท้าย

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน