Kumamon หมีสีดำแก้มแดงตัวนี้กลายเป็นหัวหน้าฝ่ายขายให้กับจังหวัดคุมาโมโตะ จังหวัดชื่อคุ้นหูของญี่ปุ่นได้ยังไง Career Fact มาไขปริศนานี้ให้คุณแล้ว
จุดเริ่มต้นคุมะมง
เมื่อหกปีที่แล้ว คุมาโมะโตะเป็นจังหวัดที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก ชาวคุมาโมโตะคิดว่าเมืองของพวกเขาไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากเมล่อนและสตรอว์เบอรรี จนปี 2010 สถานีรถไฟญี่ปุ่นเริ่มขยายรถไฟมายังคุมาโมโตะ และได้จ้างนักออกแบบมาออกแบบโลโก้เพื่อโปรโมท และได้ออกมาเป็นโลโก้เครื่องหมายตกใจ สโลแกน “Kumamoto Surprise” ที่มีหมีคุมะมงเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งชื่อคุมะมงมาจาก Kuma แปลว่าหมี และ Mon ที่เป็นคำแสลงท้องถิ่นแปลว่าคน เรื่องส่วนสูงกับน้ำหนักเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ รู้แค่ว่าความตุ้ยนุ้ยของเจ้าหมีดำตัวนี้มาจากการกินอาหารอร่อยเยอะเกินไป
ช่วงแรกเจ้าหน้าที่ในจังหวัดไม่เห็นด้วย เพราะกลัวนักท่องเที่ยวคิดว่ามีหมีดุร้ายจริงๆ แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันที่จะสนับสนุนคุมะมง โดยถ้าบริษัทไหนต้องการนำเจ้าหมีตัวนี้ไปใช้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ฟรีๆ แต่พวกเขาต้องสนับสนุนจังหวัดคุมาโมะโตะโดยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดหรือโปรโมทจังหวัดบนฉลากสินค้า ซึ่งถือเป็นการโปรโมทจังหวัดไปในตัว จนตอนนี้ คุมะมงเป็นมากกว่าสัญลักษณ์ของจังหวัดและกลยุทธ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่เป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริงๆ เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีทุกบ้าน และยังเป็นเหมือนสัตว์ในโลกจินตนาการรวมอยู่ในตัวเดียว
คุมะมงคือยุรุเคียระ (Yuru-kyara) เป็นสิ่งมีชีวิตแสนน่ารักในญี่ปุ่นที่เป็นตัวแทนของ ทั้งเมือง สนามบิน และแม้กระทั่งคุก ยุรุเคียระต่างกับมาสคอตของฝั่งตะวันตกตรงที่ มาสคอตมักเกี่ยวข้องกับทีมฟุตบอลมืออาชีพ ซึ่งมักใช้เฉพาะช่วงเวลาแข่งขันเท่านั้น
คุมะมงฟีเวอร์
เรียกได้ว่าอะไรๆ ก็คุมะมงไปหมดจริงๆ ตั้งแต่สติกเกอร์ สมุดโน้ต ลามไปถึงรถยนต์และเครื่องบิน กระแสเจ้าหมีสีดำตัวนี้แรงถึงขนาด Leica ผลิตกล้องรุ่นคุมะมงที่มีมูลค่าถึง 3,300 ดอลลาร์ และยังมีรูปปั้นทำจากทองโดยชาวโตเกียวที่มีมูลค่าถึง 1 ล้านดอลลาร์
จังหวัดคุมาโมโตะมีแผนขยายแบรนด์สินค้าที่มีเจ้าหมีตัวนี้ออกไปยังต่างประเทศ ตอนนี้คุมะมงเป็นพาร์ทเนอร์กับสหกรุ๊ปจากประเทศไทยเพื่อผลิตสินค้าที่มีคุมะมง และยังเป็นพาร์ทเนอร์กับจีน ฮ่องกง และไต้หวันอีกด้วย
คุมะมงไปทริปธุรกิจต่างประเทศมาแล้วกว่า 100 ทริป มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสำหรับสื่อบันเทิงและสินค้าต่างๆ ที่จีนสูงถึง 122.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนที่ญี่ปุ่น คุมะมงอยู่ในแคมเปญโปรโมทของเส้นทางรถไฟใหม่ในเกาะคิวชู ปี 2010 ซึ่งภาพลักษณ์ที่น่ารักและเป็นมิตรเป็นจุดแข็งที่ช่วยโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้อย่างดี
หมีสีดำตัวนี้ยังได้รับหน้าที่สำคัญในการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายพาร์ทไทม์ของจังหวัดคุมาโมะโตะ จึงทำให้ชื่อเสียงของคุมะมงดังไกลข้ามจังหวัด แต่ถึงอย่างนั้น คุมะมงก็ยังต้องแข่งกับคู่แข่งที่เป็นคาแรกเตอร์เงินทุนหนา อย่างเช่นตัวการ์ตูนดิสนีย์หรือเฮลโลคิตตี้
คุมะมงกับแผ่นดินไหว
วันที่ 14 เมษายน ปี 2016 เกิดแผ่นดินไหวตอนใต้ของเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น และเกิดแผ่นดินไหวตามหลายร้อยครั้งติดต่อกันหลายวัน คนนับหมื่นต้องอพยพออกจากบ้านของตัวเอง ทุกคนเป็นห่วงเจ้าคุมะมงจนคำว่า “Pray for Kumamoto & Kumamon” ถูกพูดซ้ำในอินเทอร์เน็ตหลายพันครั้ง
คนยังเรียกร้องให้ใช้เจ้าหมีสุดน่ารักตัวนี้เยียวยาจิตใจผู้คนด้วย สื่อ The Japans Times โพสต์ในเพจเฟสบุ๊คว่า “ผู้คนต่างตั้งคำถามว่าทำไมแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของคุมะมงเงียบหายไปในตอนที่เราต้องการเจ้าหมีตัวนี้มากที่สุด” และยังเกิดภาพวาดคุมะมงมากมายจากฝีมือของทั้งเด็กๆ และศิลปินมืออาชีพหลายสัญชาติไม่ว่าจะเป็นไทย ฮ่องกง และจีน ใน #Go Kumamon Go! Group
เหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้เรารู้ว่าคุมะมงเป็นกำลังใจให้กับคนญี่ปุ่นได้มากแค่ไหน เพราะในช่วงเวลาที่บ้านของผู้คนเสียหายจากแรงของแผ่นดินไหว การได้กอด ถ่ายรูป และคุยเล่นกับเจ้าหมีแก้มแดงก็เป็นความสุขเล็กๆ ให้กับวันที่แสนยากลำบากของพวกเขาได้
Kumamon Square
สุดท้ายนี้ ใครที่เป็นเอฟซีตัวจริง ต้องไม่พลาดไป Kumamon Square ซึ่งอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ ใกล้กับปราสาทคุมาโมโตะ เพราะที่นั่นตกแต่งด้วยรูปคุมะมงน่ารักๆ เต็มไปหมดและยังมีสินค้าคุมะมงให้เลือกซื้อ และออฟฟิศที่คุมะมงใช้ทำงานก็อยู่ที่นี่เช่นกัน โดยคุมะมงจะมาทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ และยังมาแสดงบนเวทีและพบปะกับแฟนๆ ใครที่อยากเจอคุมะมงต้องอย่าลืมเช็คตารางงานบนเว็บไซต์ก่อนมานะ
อ้างอิง
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อพูดถึง Personal…