Sheikh และ Roman: มหาเศรษฐีผู้เปลี่ยนทีมฟุตบอลอังกฤษ​ สู่นัดชิงถ้วยยุโรป

Home » Career Fact » Inspiration » Sheikh และ Roman: มหาเศรษฐีผู้เปลี่ยนทีมฟุตบอลอังกฤษ​ สู่นัดชิงถ้วยยุโรป

ความสำเร็จสำหรับธุรกิจฟุตบอลคือการ ‘คว้าแชมป์’ และมีปัจจัยมากมายที่จะทำให้ทีมหนึ่งจะสามารถคว้าถ้วยรางวัลมาครอบครองได้
วันนี้ Career Fact จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ชีคห์ มานซูร์ (Sheikh Mansour) เจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โรมัน อบราโมวิช (Roman Abramovich) เจ้าของทีมเชลซี สองเจ้าของทีมฟุตบอลยักษ์ใหญ่แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งในบรรดาคนติดตามฟุตบอลส่วนใหญ่มักจะบอกว่าพวกเขาใช้เงินซื้อความสำเร็จ แต่ปลายสัปดาห์นี้ทีมของพวกเขาต้องมาแข่งขันกันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการสำคัญ

พวกเขาเปลี่ยนทีมม้ามืดให้เป็นทีมชั้นนำของยุโรปได้อย่างไร?
แล้วอะไรคือความแตกต่างที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ?
ติดตามได้ที่นี่

 

พวกเขาเป็นใคร?

ชีคห์ มานซูร์ หรือชื่อเต็มว่า ชีคห์ มานซูร์ บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน เป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ปกครองรัฐอาบูดาบี เมืองหลวงแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หนึ่งในประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน ด้วยความที่เขาเติบโตจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากที่สุดครอบครัวหนึ่ง หน้าที่การงานของเขาจึงผูกติดอยู่กับการเมืองการปกครองและการพัฒนาในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเขามีตำแหน่งทางการเมืองเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแห่งประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

แต่สำหรับ โรมัน อบราโมวิช ชีวิตของเขาในช่วงวัยเด็กแตกต่างจากชีคห์ มานซูร์มาก เขามีพื้นเพมาจากลิทัวเนียและมีเชื้อสายยิว แต่เพราะการเข้ายึดของโซเวียตเขาจึงพลัดพรากกับพ่อและแม่ตั้งแต่เด็ก โดยมีญาติคอยเลี้ยงดูเขามา เขาเคยเป็นทั้งพ่อค้า ช่างโรงงาน ก่อนที่จะเดินเส้นทางสายธุรกิจทั้งบริษัทตุ๊กตา น้ำตาล อะลูมิเนียม และน้ำมัน นอกจากนี้ในทางการเมืองเขายังเคยเป็นผู้ว่าการเมือง Chukotka ของรัสเซียในช่วงหนึ่ง

จากจุดเริ่มต้นทางครอบครัวที่แตกต่างกันมาก สู่เส้นทางสายธุรกิจและการเมือง จนพวกเขาได้เป็นมหาเศรษฐีแถวหน้าของประเทศเหมือนกัน นี่คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้พวกเขาไม่หยุดเดินไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้าสิ่งที่ท้าทาย

 

เส้นทางธุรกิจและมูลค่าชีวิตส่วนตัว

ก่อนจะเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล พวกเขาทั้งสองเดินบนเส้นทางธุรกิจและการลงทุนเป็นหลักจนมีทรัพย์สินมากมายมหาศาล

สำหรับชีคห์ เขามีทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 2.2 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์ แม้ความมั่งคั่งส่วนหนึ่งของเขาจะมาจากมรดกที่ทำให้เขามีทั้งพระราชวัง และโรงแรมส่วนตัวของครอบครัว แต่เขาเป็นก็นักลงทุนด้วย ซึ่งสินทรัพย์ต่างๆ ของเขากระจายอยู่ในบริษัทกว่า 50 แห่ง ทั้งการลงทุนในลงทุนบริษัทปิโตรเลียม จัดตั้ง Sky News Arabia รวมถึงถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Virgin Galactic ของ ริชาร์ด แบรนสัน อีกด้วย นอกจากนี้เขายังชอบการแข่งม้า และฟอร์มูลาร์วันจนถึงขนาดว่าเคยซื้อหุ้นของทีม Ferrari และ Mercedes ความชื่นชอบของเขายังรวมไปถึงการเป็นเจ้าเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดอันดับห้าของโลก และรถอย่าง Ferrari Enzo, Porsche 911 GT1 และ Bugatti Veyrons เขายังเป็นหัวหน้ามูลนิธิการกุศล รวมทั้งประธานขององค์กรและหน่วยงานต่างๆ มากมาย

ขณะที่เส้นทางธุรกิจของโรมันคือการเป็นเจ้าของ Evraz บริษัททำเหมืองและผลิตเหล็กที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และยังลงทุนกับธุรกิจด้านแบตเตอรีในรัสเซียด้วย เขาเคยถือหุ้นในบริษัทน้ำมันชื่อ Sibneft ก่อนที่จะขายให้กับ Gas titan Gazprom ไปในปี 2005 ซึ่งความชอบส่วนตัวทำให้โรมันครอบครองเครื่องบิน โรงแรมในอิสราเอล และเป็นเจ้าของยอร์ชที่ใหญ่อันดับสองของโลก มูลค่าทรัพย์สินและธุรกิจทั้งหมดมากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ในเรื่องของคอนเนคชันการเมืองเขายังมีความสนิทสนมกับ ประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซินและวลาร์ดิเมีย ปูติน ของรัสเซียด้วย

ปัจจุบันชีคห์ครองตำแหน่งเจ้าของทีมฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเหนือทุกทีม และในลีกอังกฤษพวกเขาทั้งสองคนยังเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลที่รวยที่สุดสองลำดับแรกอีกด้วย ทรัพสินย์ที่มั่งคั่งของพวกเขาเปลี่ยนแปลงโลกกีฬาไปอย่างสิ้นเชิง

 

ความสำเร็จสู่สองทีมแห่งเกาะอังกฤษ

ในเดือนมิถุนายน 2003 เป็นจุดเริ่มต้นของโรมัน อบราโมวิชกับเชลซี เขาทุ่มเงินกว่า 140 ล้านปอนด์ในการเทคโอเวอร์สโมสร และใช้เงินไปกว่า 2,000 ล้านปอนด์ตลอดระยะเวลา 17 ปีในการบริหารทีม เหล่านักเตะที่มีชื่อเสียงมากมายย้ายเข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่แพงมหาศาล แต่นั่นทำให้ทีมของเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้ตั้งแต่ปีที่ 2 ของการเป็นเจ้าของทีม ในปัจจุบันเชลซีเป็นหนึ่งในทีมที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลก ในยุคที่โรมันเข้ามาเชลซีสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 18 รางวัล ในจำนวนนั้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดถึง 5 สมัย และถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ความสำเร็จมากมายที่ผ่านมาของโรมันแม้จะถูกสบประมาทจากแฟนบอลว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ แต่สำหรับธุรกิจฟุตบอลแล้วการจ่ายเงินเพื่อได้แชมป์นับว่าเป็นลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
โรมันเองคงคิดแบบนั้นเช่นกัน

ธุรกิจฟุตบอลอาจไม่ใช่แหล่งทำกำไรสูงสุดและรวดเร็วเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แต่สำหรับคนที่มีทรัพย์สินมหาศาลอย่างชีคห์ มานซูร์ แล้ว นี่คงเป็นการลงทุนที่น่าเสี่ยงสักครั้ง ในเมื่อโรมันทำสำเร็จกับเชลซีมาแล้ว ก็พอจะเป็นต้นแบบที่เขาเลือกจะทำแบบเดียวกันได้ และในปี 2008 ชีคห์ลงทุนทุ่มเงินประมาณ 150 ล้านปอนด์ ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และทุ่มเงินไปทั้งหมดเกือบ 1.7 พันล้านปอนด์ และมอบความสำเร็จให้เขาอย่างนับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่กวาดแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 สมัย และแชมป์ถ้วยอื่นๆ ในประเทศรวมกว่า 11 สมัย แต่ความสำเร็จที่เขายังขาดอยู่คือถ้วยระดับทวีปอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่พลาดเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศมาหลายครั้ง

ความสำเร็จจากการจ่ายเงินมหาศาลกำลังจะทำให้สโมสรที่พวกเขาเป็นเจ้าของนั้นมาพบกันในนัดชิงชนะเลิศนัดสำคัญที่สุดนัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

 

แมตช์ในฝันของทีมระดับเศรษฐี

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก (วันที่ 30 พฤษภาคม) ถ้วยใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งเป็นรายการสำคัญต่อสโมสรและแฟนบอลอย่างมาก หากนับจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในธุรกิจฟุตบอลทั้งหมดของพวกเขาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งเม็ดเงินมากมายใช้สำหรับการซื้อนักเตะฝีเท้าดี การจ้างผู้จัดการทีมที่เก่ง รวมถึงการพัฒนาภาพรวมทั้งหมดจากทีมที่ไม่ได้ลุ้นแชมป์สู่ทีมที่อยู่หัวตารางเกือบทุกปี จนทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลจำนวนมาก เหล่าแฟนบอลที่ติดตามเชียร์พวกเขาในฐานะทีมโปรดก็เพิ่มจำนวนขึ้นในแต่ละปี สิ่งที่โรมันและชีคห์ลงทุนไปถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกกีฬาฟุตบอลไปอย่างมาก

เชลซีกับโรมันในฐานะเศรษฐีหน้าเก่าผู้บุกเบิกความสำเร็จเคยสัมผัสแชมป์ไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่ฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ของชีคห์นั้นเพิ่งเคยได้เข้าชิงเป็นครั้งแรก ความเข้มข้นคือนอกจากจะเป็นการพบกันของทีมจากประเทศเดียวกันแล้ว นี่ยังเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีที่มหาเศรษฐีอย่างโรมันและชีคห์ต่างก็ต้องการเป็นผู้ชนะ ระหว่างทีมแชมป์หนึ่งสมัย กับ ทีมที่ยังไม่เคยได้แชมป์ อาจจะต้องติดตามรอดูว่าใครจะเป็นมหาเศรษฐีที่พาทีมของตัวเองคว้าแชมป์ในแมตช์นี้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือว่าสิ่งที่โรมันและชีคห์ทำต่อวงการฟุตบอลไม่ใช่แค่การจ่ายเงินเพื่อประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับและพัฒนาวงการฟุตบอลให้ก้าวไปอีกขั้นด้วย


อ้างอิง
https://bit.ly/3oJv5cb
https://bit.ly/3bJcGXW
https://bit.ly/3f8px84

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน