‘คนเลี้ยงมด’ ชื่อนี้ต้องสะดุดหูหลายคนเมื่อได้ยินว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้และเป็นธุรกิจได้จริงๆ
จากจุดเริ่มต้นที่ชอบสังเกตรังมดคันไฟตั้งแต่ 10 ขวบสู่อาชีพเลี้ยงและขายมดที่สร้างรายได้ให้กับเขา เพราะความฝันของทุกคนใหญ่มากพอที่จะทำให้เป็นจริงได้…
วันนี้ Career Fact ขอนำเสนอเรื่องราวอาชีพ ‘คนเลี้ยงมด’ ของ ‘กานต์’ กานต์ รมยาสัย เจ้าของเพจคนเลี้ยงมด Ant Keeping Thailand ที่มีผู้ติดตามในปัจจุบันถึง 1 แสนคน
เริ่มต้นรู้จักมด
กานต์ในวัยเด็กชอบเล่นเกมและเคยทำธุรกิจร้านเกมส์ตั้งแต่อายุ 14 โดยมีคุณพ่อลงทุนให้ และตัดสินใจเข้าเรียนสาขาวิศวะคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพราะเป็นวิชาถนัดมากที่สุด
ตั้งแต่ก่อน 10 ขวบ ชอบสังเกตรังมดคันไฟ แล้วจินตนาการว่าเป็นเมือง
กานต์ รมยาสัย
เขาเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจเรื่องมดและเป็นสิ่งที่ติดในใจมาตลอดว่าวันหนึ่งต้องเลี้ยงมดให้ได้ ทว่าแม้จะมีความฝันว่าอยากเลี้ยงมดตั้งแต่เด็กจนถึงสมัยมหาลัย แต่ข้อมูลการเลี้ยงมดนั้นแทบไม่มีให้เขาได้ศึกษาเลย แต่แล้วระหว่างเรียนต่ออยู่ที่อเมริกาเขาได้พบกับคอมมูนิตี้คนเลี้ยงมดในอเมริกา ความฝันในวัยเด็กจึงกลับมาอีกครั้ง…
ความฝันที่ถูกเติมเต็ม
ความฝันราว 15 ปี ถูกเติมเต็มในวัย 25 เมื่อเขาไปเจอคนเลี้ยงมดในย่านแคลิฟอร์เนีย และติดต่อไปขอซื้อมดมาเลี้ยงจำนวน 2 รัง โดยมีนางพญามด 1 ตัว มดงาน 4-5 ตัว กานต์เล่าว่าเขาใช้เวลานั่งดูกระบวนการในการใช้ชีวิตของมด และพบว่าใช้เวลาเกือบ 2 เดือนกว่าไข่จะกลายเป็นมดงานหนึ่งตัว จึงเกิดความผูกพันที่เปลี่ยนจากตอนแรกแค่อยากจะนำมาสู้กัน สู่ความรักความเข้าใจ ‘โลกของมด’ มากขึ้น
กานต์แบ่งปันความรู้เรื่อมดให้เราฟังว่า ในปัจจุบันมดมีไม่ต่ำกว่า 15,000 ชนิดที่บันทึกชื่อแล้ว โดยในไทยมีถึง 600-700 ชนิดที่เป็นสายพันธุ์ใหม่แต่ยังไม่ถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ เขาบอกว่ามดที่เลี้ยงอยู่เป็นสายพันธุ์ Honeypot ant ที่หายากและเจอเฉพาะที่ทะเลทรายในอเมริกา เลี้ยงในไทยได้แต่ขยายพันธุ์ไม่ได้ ซึ่งมดของแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันไป
ขายมด
เขาเริ่มขายมดตั้งแต่ช่วงที่อยู่อเมริกา โดยมีราคาสูงระดับ 2,000-10,000 เมื่อเทียบเป็นเงินบาท ยิ่งหายากก็ยิ่งแพง จากจุดเริ่มต้นแค่ 2 รัง มดของกานต์ก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เริ่มอยากจะออกไปหามดเอง เขาค้นพบว่าที่อเมริกานั้นการหามดไม่ง่ายเลยและเข้าใจว่าทำไมมดจึงมีราคาแพง
ทุกสิ่งทุกอย่างมีราคาของมัน กว่าจะเริ่มหามดเอง ก็จำเป็นต้องเรียนรู้เงื่อนไขในการหามดแต่ละชนิดด้วย
เขากล่าวเสริม
Honeypot ant ที่กานต์เลี้ยงเป็นมดที่หายากอันดับต้นๆ กว่าจะได้มาต้องเสี่ยงอันตรายมาก เขาเล่าว่าในระหว่างทางต้องเจอสัตว์แปลกตั้งแต่ งูหางกระดิ่ง รวมถึงสิงโตภูเขา แต่ให้มองอีกแง่ระหว่างทางเขาก็ได้ผจญภัย ได้ประสบการณ์ ความหลงใหล และความตื่นเต้นกลับมาด้วยเช่นกัน
เปิดเพจคนเลี้ยงมด
กานต์ชอบเขียนเล่าเรื่องมดในเฟซบุ๊ก แต่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ เขาตัดสินใจเปิดเพจเพราะแค่อยากเขียนไดอารี่เกี่ยวกับมดที่เลี้ยงไว้โดยไม่คาดหวังว่าคนจะเข้ามาอ่านมากนัก แต่พอมีคนเริ่มอ่าน ก็มีคำถามมากขึ้น เขาเลยพัฒนาบทความใหม่ๆ ตั้งแต่แนะนำการเลี้ยง ธรรมชาติของมด รวมถึงชีวิตประจำวันของมด
เขาบอกว่า “การเลี้ยงมดคือการเฝ้าดู การเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตของมดในช่วงเวลาที่เลี้ยง เห็นทุกอย่างระหว่างทาง” และกว่าจะเกิดเป็นบทความมดได้ กานต์ก็ต้องใช้เวลาว่างเพื่อดูมดว่าทำอะไร หรือเกิดเหตุการณ์อะไร ก่อนจะถ่ายรูปเก็บบันทึกไอเดียเพื่อเขียนบทความ ทำให้บทความมดที่กานต์เขียนจึงมาจากมุมมองและและความรู้สึกที่เขาอยากถ่ายทอดการเฝ้ามองดูมดของตัวเอง
ธุรกิจมดในไทย
เมื่อถามว่าตลาดเลี้ยงมดในไทยเป็นยังไง กานต์ตอบว่าปัจจุบันก็มีคนเลี้ยงมากขึ้น เขาเห็นตลาดมดในไทยตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาว่ามีคนมากมายที่อยากเลี้ยง และเป็นตลาดที่ใหม่ ตอนนั้นจึงเริ่มจัดชุด Starter Kit เพื่อหารายได้ที่มากกว่าการขายมดอย่างเดียวขึ้นมา
กานต์อธิบายว่ารังมดคือการ “จำลองโลกของมดใต้ดินให้มาอยู่บนดิน” เขามองว่าธุรกิจเลี้ยงมดเป็นธุรกิจระยะยาว และต่อยอดไปได้เรื่อยๆ ปัจจุบันกานต์มีมดขายอยู่ 4-5 ชนิดเท่านั้น โดยที่จุดยืนการทำธุรกิจของเขาคือจะไม่ขุดจากรังธรรมชาติแล้วมาขาย แต่จะเลี้ยงจากนางพญามดตัวเดียวเท่านั้นเพื่อขยายพันธุ์แล้วขายต่อ
อนาคตของชายเลี้ยงมด
แม้ทุกวันนี้จะมีเบื่อบ้างเพราะเอางานอดิเรกที่ชอบมาทำเป็นธุรกิจ ทำให้เมื่ออยู่กับมดทั้งวันเลยอยากพักจากมดเพื่อหาเวลาว่างไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่สุดท้ายกานต์ก็อยากที่จะต่อยอดธุรกิจนี้ไปให้ไกลที่สุด
เขาตั้งเป้าหมายว่าจะขยายสายพันธุ์มดให้มากขึ้นไปอีกในอนาคต รวมถึงมีความฝันว่าจะเปิดคาเฟ่มดและพิพิธภัณฑ์มดมีชีวิต เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องมด นอกจากนี้ในระยะยาวเขามีแผนว่าจะเขียนหนังสือและขายเสื้อ จึงฝากให้ทุกคนรอติดตามกันด้วย
สิ่งที่อยากจะฝากถึงทุกคน
กานต์ย้ำว่าการเลี้ยงมดมีข้อควรระวัง ต้องรู้ข้อดีข้อเสีย และรู้ชนิดของมดที่จะเลี้ยง รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจให้มาก โดยสามารถศึกษาจากบทความในเว็บไซต์ www.ants.in.th ของเขาได้เลย
และไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตามต้องมีความรู้ในสิ่งที่ทำ เพราะมีคนมากมายกระโดดเข้าไปทำธุรกิจโดยไม่มีความรู้ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเลี้ยงมดที่กานต์ทำอยู่ ที่ต้องเข้าใจธรรมชาติของสัตว์
พอไม่มีความรู้ในสิ่งที่ทำ ขาดความเข้าใจ ก็จะไม่ตระหนักถึงผลกระทบในสิ่งที่ทำ และส่งผลไปถึงการตัดวงจรของสัตว์บางชนิด
เขาทิ้งท้าย
Personal Branding คืออะไร? สื่อสารอย่างไร? ในวันที่ตัวตนสำคัญกว่าตัวแบรนด์

FacebookFacebookXXLINELine‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเราพูดถึงการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน Personal Branding จะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ และให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆแต่เมื่อพูดถึง Personal Branding…