Anthony Tan: เจ้าของ Grab กำลังควบกิจการ คาดมูลค่าหลังรวมอยู่ที่ครึ่งล้านบาท

แอนโธนี ตัน (Anthony Tan) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Grab บริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ล่าสุดกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในโลกกับ Altimeter Growth Corp ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเพื่อควบรวมกิจการโดยเฉพาะ การควบรวมครั้งนี้เป็นการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ด้วยวิธีการ SPAC แทนการขายหุ้น IPO ตามปกติ โดยคาดว่ามูลค่าของ Grab หลังควบรวมกิจการแล้วจะอยู่ที่ราว 39,600 ดอลล่าร์สหรัฐ

เส้นทางก่อนที่เขาจะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่นี้เป็นมาอย่างไร? และทำไมเขาจึงไม่เคยหยุดทะเยอทะยาน? วันนี้ Career Fact จะมาเล่าให้ฟัง

 

ชีวิตและเบื้องหลัง

แอนโธนี่ ตัน เกิดและเติบโตที่มาเลเซียในครอบครัวที่อยู่เบื้องหลัง Tan Chong Motor ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย แอนโธนีเข้าเรียนและจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชิคาโกและเรียนต่อปริญญาโท MBA ที่มหาวิทยาลัย Harvard ทั้งหมดก็เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับช่วงต่อบริหารกิจการของครอบครัว

 

งานคือภารกิจ

สำหรับแอนโธนีงานของเขาถือเป็น “ภารกิจ” เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนับตั้งแต่ปี 2012 บริษัท Grab ของแอนโธนีเติบโตขึ้นจากแอปสำหรับเรียกรถเพียงอย่างเดียวไปสู่การจัดส่งอาหารและของชำ ทั้งยังขยายตลาดไปสู่บริการชำระเงิน กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงบริการกู้ยืมเงิน
กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้จ่ายสินค้าและเพื่อความสะดวกสบาย ทำให้ Grab เติบโตและครองตลาดบริการเทคโนโลยีที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ได้จนถึงทุกวันนี้

 

แรงบันดาลใจจากคุณปู่

กว่าที่ Grab จะก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำที่ทุกคนรู้จักได้อย่างในปัจจุบัน ทั้งหมดเริ่มมาจาก แอนโธนีและเพื่อนร่วมชั้น ฮุย หลิง ตัน ได้วางแผนปรับโฉมตลาดรถแท็กซี่ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นแผนที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันสร้างธุรกิจใหม่ประจำปีของ Harvard ก่อนที่พวกเขาจะใช้เงินรางวัลนี้และเงินออมส่วนตัวของแอนโธนี่ รวมถึงเงินลงทุนจากแม่ของเขาเพื่อเปิดตัวแอปพลิเคชันที่ตอนนั้นเรียกว่า MyTeksi ในเดือนมิถุนายน ปี 2012
1 ปีถัดมาฟู่จื่อซวินผู้จัดการของบริษัทร่วมทุนระดับโลกอย่าง GGV พบกับแอนโธนีที่ Starbucks ในสิงคโปร์ ตอนนั้นเขายังไม่แน่ใจว่าควรสนับสนุนสตาร์ทอัพตัวนี้ดีไหมเพราะ “เขาเรียนจบจาก Harvard มีธุรกิจครอบครัวรอให้สานต่อ แถมยังคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ผมจึงถามเขาว่าแรงจูงใจของเขาคืออะไร”” จื่อซวินถาม ซึ่งคำตอบของแอนโธนีก็คือแรงบันดาลใจของเขามาจากการที่คุณปู่ของเขาเป็นคนขับรถแท็กซี่และหลังจากนั้นก็สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาได้ การเรียนรู้จากประสบการณ์ของครอบครัวถือเป็นแรงผลักดันชั้นยอดสำหรับคนที่เติบโตมาในตระกูลธุรกิจอย่างเขา

 

ทุบกระปุก

แอนโธนีเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพา GrabTaxi ฝ่าวิกฤตการเงินของบริษัทในช่วงขยายธุรกิจไปยังกรุงมะนิลา ในปี 2013 จนไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้พนักงานได้ เขาเคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราวางแผนไม่ดี ใช้จ่ายไม่ดี และเหตุการณ์นั้นปลุกให้เราตื่น”

ในช่วงแรก GrabTaxi ได้รับเงินทุนจากครอบครัวแอนโธนีทั้งหมด แต่หลังจากที่เขารู้ตัวว่ากำลังเดินทางผิดและไม่รอบคอบ ปีถัดมาเขาจึงเปิดระดมทุนครั้งแรกผ่าน Vertex Ventures เพื่อจัดการเงินให้เป็นมืออาชีพและยังให้เหล่ากรรมการบริษัทเอาเงินของตัวเองไปลงทุนในธุรกิจด้วยเพื่อติดตามเม็ดเงินลงทุนของตัวเองได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
#ช่วงเวลาว่างแสนจำกัด

ตัดภาพมาที่ปี 2017 เขาย้ายสำนักงานใหญ่จากที่กัวลาลัมเปอมาที่สิงคโปร์ ภาพที่เห็นได้บ่อยในช่วงเวลานี้คือภาพของแอนโธนี่ที่กำลังกิน “cai fan”(ข้าวราคาถูก) ที่ Midview City ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของสิงคโปร์

สำหรับด้านชีวิตครอบครัวเขาแต่งงานกับ โคลอี้ ตง ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Phileo Allied Bank และกำลังจะมีลูกคนที่สี่อีกด้วย

เขาไม่ได้มีเวลาว่างไปทำเรื่องสนุกมากนักซึ่งในปี 2019 แอนโธนีเคยบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง Invictus เป็นภาพบนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับความเป็นผู้นำของเนลสัน แมนเดลา ให้กับเขา อย่างน้อยก็ 38 นาทีแรกของเรื่องน่ะนะเพราะ “ผมดูไม่จบ…ใช่ ผมไม่มีเวลาดูหนัง” แอนโธนีกล่าว

แต่เขาไม่ได้คิดมากที่ไม่มีเวลาว่างเท่าที่ควร“ผมไม่ต้องการหยุดพัก เพราะสำหรับผมแล้วงานคือการหยุดพัก” เขากล่าว คนที่รู้จักแอนโธนีหลายคนมักจะเห็นด้วยว่าความมุ่งมั่นและทักษะการจัดการเวลาคือสิ่งที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้กันว่าบางครั้งเขาก็ศึกษาเคสธุรกิจหรือรับสายขณะวิ่งบนลู่วิ่งเลยทีเดียว

 

ทะเยอทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง

การขับเคลื่อนโลกธุรกิจของเขาได้กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียร่วมกับ นาเดียม มาคาริม เพื่อนร่วมชั้นเรียน Harvard ของเขาผู้ก่อตั้ง Gojek แอปพลิเคชันธุรกรรมการชำระเงิน บริการส่งของ และบริการอื่นๆ ของอินโดนีเซียที่เริ่มต้นจากการเป็นแอปฯ เรียกมอเตอร์ไซค์ Uber ยังเป็นอีกบริษัทที่มองว่าแอนโธนีและ Grab เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สิ้นสุดลงในปี 2018 เมื่อกลุ่มทุนจากสหรัฐขาย Uber ให้ Grab และไม่ลงมาเล่นตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก

แอนโธนีประสบความสำเร็จในการสรรหาบุคลากรและพนักงานที่มีความสามารถ เช่น จูเว่ย อดีตนักพัฒนา Facebook ที่ตอนนี้ทำหน้าที่ CTO ให้กับ GrabTaxi

“เราต้องการคนเก่งและเพื่อไม่ใช้เงินไปกับการโฆษณา ต้องจ้างคนที่ฉลาดกว่าคุณและทำอะไรรวดเร็วกว่าคุณ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องถ่อมตัวและรับคำติชมได้” แอนโธนีกล่าว

ด้วยการแข่งขันที่สูงในวงการนี้ทำให้แอนโธนีต้องเดินหน้าพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ความมุ่งมั่นของเขาไม่ได้ส่งเสียงดังกังวานแต่คนที่เคยทำงานด้วยมักจะเห็นบุคลิกอันโดดเด่นของเขา “แอนโธนีเป็นนักสู้ข้างถนน” เกรกอรี่ แวน อดีตพนักงาน Grab ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าแพลตฟอร์มการบริหารความมั่งคั่งในสิงคโปร์กล่าวถึงความมุ่งมั่นของแอนโธนี

 

ล่าสุดหลังจากที่ Grab Holdings ทำข้อตกลงเข้าจดทะเบียนใน NASDAQ ผ่านการควบรวมกิจการที่มีมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กับบริษัท Altimeter Growth Corp ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเพื่อควบรวมกิจการโดยเฉพาะ (SPAC) ทำให้ Grab สามารถระดมทุน 4 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนของมาเลเซียและตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอินโดนีเซีย นับเป็นการเติบโตที่ยิ่งใหญ่มากๆ สำหรับแอนโธนีผู้ไม่เคยหยุดทะเยอทะยานเพื่อก้าวเป็นเบอร์หนึ่งในโลกธุรกิจ

 

อ้างอิง
https://bit.ly/3oiY8mA
https://bit.ly/3eME8pt
https://bit.ly/3y9rngl
https://bit.ly/2TkqUIc

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights