Kai-Fu Lee: ผู้ค้นพบหนทางอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับ AI

สิ่งที่เสียใจที่สุดในวันที่ความสำเร็จไม่ใช่คำตอบในชีวิตของ Kai Fu Lee อดีตประธานบริษัท Google China หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

หลังจากผ่านเรื่องราวในชีวิตมาอย่างโชกโชน หลี่ไคฟูก็ค้นพบว่าความสำเร็จตรงหน้าทำให้เขาหลงลืมที่จะหยุดมองสิ่งเรียบง่ายรอบตัวในชีวิตประจำวัน ความคิดนี้จึงผลักดันให้เขาเขียนหนังสือเล่มดังระดับโลกอย่าง “AI Superpowers: China, Silicon Valley, And The New World Order” เพื่อบอกให้โลกรับรู้ถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิงระหว่างมนุษย์และ AI รวมทั้งวิธีการปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันระหว่างสองสิ่งนี้

 

ชายผู้มากด้วยตำแหน่งและประสบการณ์

หลี่ไคฟูเป็นชาวไต้หวันโดยกำเนิดและเติบโตที่สหรัฐอเมริกา เขาเป็นทั้งนักธุรกิจ นักเขียน และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลก เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก Columbia University สาขา Computer Science และระดับปริญญาเอกจาก Carnegie Mellon University ที่ซึ่งเขาพัฒนา Speech Recognition System อย่าง Sphinx

เขาเคยดำรงตำแหน่งระดับสูงในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกมามากมาย ทั้ง Apple, SGI, Microsoft และ Google นิตยสาร Times เคยยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกของปี 2013 ปัจจุบันเขาคือ CEO และประธานของ Sinovation Ventures หรือบริษัทเทคสัญชาติจีนซึ่งเป็นผู้นำในตลาดโลก

 

เคยโหมงานหนักจนละเลยครอบครัว

หลี่ไคฟูใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตของเขากับการสร้างสรรค์และวิจัยสิ่งประดิษฐ์เปลี่ยนโลกอย่าง AI เขากลายเป็นนักลงทุนและผู้ให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคตในจีน เขาทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาชีวิตของเขาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุดราวกับว่าตัวเองคือคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง จนมีหลายครั้งที่เขาลดทอนความสำคัญของชีวิตส่วนตัวด้านครอบครัวลง

ครั้งหนึ่งเขาเคยเลือกการนำเสนอ Project ให้บริษัท Apple มากกว่าไปเฝ้าภรรยาที่กำลังจะคลอดลูก เพราะเขาคิดว่าภรรยาสามารถคลอดลูกได้โดยไม่มีเขา แต่การนำเสนองานคงไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีหากขาดเขา หรือตอนที่เวลาทำงานของเขากีดกันไม่ให้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับแม่ ซึ่งตอนนี้ป่วยเป็น Dementia (ภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ)

 

จุดเปลี่ยนที่พลิกผันกับหนังสือเล่มแรก

อะไรทำให้คนที่ให้ความสำคัญกับงานเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดหันมาเขียนหนังสือบอกให้ผู้คนหันไปใช้ชีวิต? คำตอบก็คือเมื่อเขาได้รู้ซึ้งว่าตัวเองเกือบจะไม่มีเวลาเหลือให้ได้ใช้ชีวิตอีกแล้ว เมื่อแพทย์บอกว่าเขาเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย หลี่ไคฟูคิดว่าความสำเร็จในงานของเขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวในช่วงของการรักษา เขาโชคดีมากที่รอดมาได้ และเริ่มเห็นถึงความสุขที่แท้จริงของชีวิต เขาเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำงานของตัวเอง แล้วหันมาให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากขึ้น

เขามองเห็นแล้วว่าชีวิตของเขาไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ AI ที่จะโหมทำงานหนักไปได้ตลอด เขามีความคิดสร้างสรรค์และความรักซึ่งเป็นจุดแข็งของมนุษย์ ส่วน AI คือสิ่งที่จะมาปลดปล่อยเขาออกจากงานซ้ำซากต่างหาก หลี่ไคฟูเล็งเห็นถึงจุดร่วมที่มนุษย์และ AI จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เพราะ AI ไม่สามารถทดแทนมนุษย์ในงานที่ต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกได้ ทั้งหมดนี้ถูกกลั่นกรองอยู่ในหนังสือ Al Superpowers ของเขา

 

ผู้ชายคนนี้กำลังบอกเราว่าความหมายที่แท้จริงของชีวิตไม่ใช่การประสบความสำเร็จ แต่มันคือการได้รับและส่งต่อความรักให้กับเพื่อนมนุษย์ คือการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ คือการใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่รัก คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดและอุปสรรค สำคัญที่สุด…คือต้องอย่าลืมมองเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวในจังหวะที่พยายามก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งด้วย

 

อ้างอิง
https://bit.ly/3qcIVoe
https://bbva.info/2UpqTmX
https://bit.ly/3zJSNKn

 

สูตรความสำเร็จกับ "ที่สุด" ของประเทศ

คอร์สออนไลน์กับผู้บริหาร ผู้นำทางความคิด แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

Verified by MonsterInsights